N 70 เป็นชื่อการค้าของสารชำระล้างชื่อ Sodium Lauryl Ether Sulfate
.
มีรายงานเกี่ยวกับการก่อการระคายเคือง
การเป็นสารที่อาจก่อมะเร็ง
.
หากผสมกับสารอื่นๆ ในสูตรเคมี ที่ก่อไนโตรเจน
.
ผู้ที่นำสารตัวนี้มาใช้ต้องมีความรู้ในสารเคมีแต่ละชนิดที่จะนำมาใช้อย่างถูกต้อง
.
โดยเฉพาะอย่างยิ่งอัตราส่วนในการผสมต้องแม่นยำถูกต้องตามหลักวิชาการ
.
ในทางการเกษตร มีการนำมาใช้ ทดแทนสารเปียกใบ
ซึ่งในความเป็นจริง ยังไม่มีการพิสูจน์อย่างจริงจัง ว่าปลอดภัยต่อผู้บริโภค
แม่แต่ภาครัฐที่เกี่ยวข้องซึ่งมีเครื่องมือทดสอบมากมาย
แต่กลับนิ่งเฉย ในการทดสอบอย่างจริงจัง แล้วการแนะนำของเจ้าหน้าที่
ก็ยังเป็นไปในลักษณะ จำๆกันมาแบบไม่มีผลพิสูจน์ทางวิชาการ
.
นั่นคือเจ้าหน่าที่เกษตร ยังคงล้าหลังในการก้าวไม่ทันโลก
จึงเป็นที่น่าเสียดายที่เรายังต้องจ่ายเงินใก้กับกลุ่มราชการหลงยุคอยู่
.
ฉนั้นในวันนี้ เรากลุ่มที่ยังทำการเกษตรปลอดสารพิษ
ถ้าเราจะทำถึงขั้นใส่ใจในรายละเอียดทุกขั้นตอน ให้ได้มากที่สุด
.
สารเปียกใบที่ควรจะหยิบมาให้ในวันนี้
.
คงไม่ใช้ น้ำยาล้างจาน อย่างที่เจ้าหน้าที่เกษตร ตกยุคปาวๆแนะนำไปเรื่อย
.
ตัวที่จะพอทดแทนได้ คงนะเป็น สบู่ หรือน้ำสบู่ (ดูส่วนผสมหลักด้วย)
.
ไอ้พวกสบู่ตามเน็ต ขายกันเกร่อ ไว้ใจไม่ได้นะ พวกภาพดีมีกะละมัง เป็นโรงงานผสม มีเยอะ
.
เกษตรปลอดสาร ถ้าเรียนรู้จนถึงที่สุด จะรู้ว่า เราแทบไม่มีต้นทุน อะไรมากมายเลย
จริงๆ มันคือทางรอดของเกษตรกรไทย จริงๆ ต้นทุนก็มีแต่แรงงานตัวเองเท่านั้น
ส่วนประกอบอื่นๆ นิดหน่อย เล็กน้อยมาก
.
ก็อยู่ที่คนไทย จะยอมรับและพยายามปรับเปลี่ยนหรือไม่เท่านั้นเอง
.
มีรายงานเกี่ยวกับการก่อการระคายเคือง
การเป็นสารที่อาจก่อมะเร็ง
.
หากผสมกับสารอื่นๆ ในสูตรเคมี ที่ก่อไนโตรเจน
.
ผู้ที่นำสารตัวนี้มาใช้ต้องมีความรู้ในสารเคมีแต่ละชนิดที่จะนำมาใช้อย่างถูกต้อง
.
โดยเฉพาะอย่างยิ่งอัตราส่วนในการผสมต้องแม่นยำถูกต้องตามหลักวิชาการ
.
ในทางการเกษตร มีการนำมาใช้ ทดแทนสารเปียกใบ
ซึ่งในความเป็นจริง ยังไม่มีการพิสูจน์อย่างจริงจัง ว่าปลอดภัยต่อผู้บริโภค
แม่แต่ภาครัฐที่เกี่ยวข้องซึ่งมีเครื่องมือทดสอบมากมาย
แต่กลับนิ่งเฉย ในการทดสอบอย่างจริงจัง แล้วการแนะนำของเจ้าหน้าที่
ก็ยังเป็นไปในลักษณะ จำๆกันมาแบบไม่มีผลพิสูจน์ทางวิชาการ
.
นั่นคือเจ้าหน่าที่เกษตร ยังคงล้าหลังในการก้าวไม่ทันโลก
จึงเป็นที่น่าเสียดายที่เรายังต้องจ่ายเงินใก้กับกลุ่มราชการหลงยุคอยู่
.
ฉนั้นในวันนี้ เรากลุ่มที่ยังทำการเกษตรปลอดสารพิษ
ถ้าเราจะทำถึงขั้นใส่ใจในรายละเอียดทุกขั้นตอน ให้ได้มากที่สุด
.
สารเปียกใบที่ควรจะหยิบมาให้ในวันนี้
.
คงไม่ใช้ น้ำยาล้างจาน อย่างที่เจ้าหน้าที่เกษตร ตกยุคปาวๆแนะนำไปเรื่อย
.
ตัวที่จะพอทดแทนได้ คงนะเป็น สบู่ หรือน้ำสบู่ (ดูส่วนผสมหลักด้วย)
.
ไอ้พวกสบู่ตามเน็ต ขายกันเกร่อ ไว้ใจไม่ได้นะ พวกภาพดีมีกะละมัง เป็นโรงงานผสม มีเยอะ
.
เกษตรปลอดสาร ถ้าเรียนรู้จนถึงที่สุด จะรู้ว่า เราแทบไม่มีต้นทุน อะไรมากมายเลย
จริงๆ มันคือทางรอดของเกษตรกรไทย จริงๆ ต้นทุนก็มีแต่แรงงานตัวเองเท่านั้น
ส่วนประกอบอื่นๆ นิดหน่อย เล็กน้อยมาก
.
ก็อยู่ที่คนไทย จะยอมรับและพยายามปรับเปลี่ยนหรือไม่เท่านั้นเอง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น