การบ่มกล้วยหอมคาเวนดิชที่ยังเขียว ให้ออกสีเหลืองน่ารับประทาน
วิธีการก็เหมือนกับที่อธิบายไปก่อนหน้านี้เลยครับ นั่นคือการกระตุ้นให้กล้วยสร้างแก๊สเอทิลีน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ช่วยในการสุกของผลไม้ สามารถทำได้โดย
วิธีธรรมชาติ:
- บ่มรวมกับผลไม้อื่น: เลือกผลไม้สุกที่ปล่อยแก๊สเอทิลีนสูง เช่น แอปเปิ้ล มะม่วงสุก หรืออะโวคาโด นำมาใส่ถุงกระดาษหรือกล่องปิดฝา พร้อมกับกล้วยหอมคาเวนดิชที่ยังเขียว แก๊สเอทิลีนจากผลไม้สุกจะช่วยเร่งการสุกของกล้วยหอม
- บ่มในถุงกระดาษ: ใส่กล้วยหอมคาเวนดิชที่ยังเขียวลงในถุงกระดาษ พับปากถุงหลวมๆ แล้วเก็บไว้ในอุณหภูมิห้อง ถุงกระดาษจะช่วยกักเก็บแก๊สเอทิลีนที่กล้วยปล่อยออกมา ทำให้สุกเร็วขึ้น
วิธีเร่ง
- ใช้น้ำยาเร่งสุก: หาซื้อน้ำยาเร่งสุกสำหรับผลไม้ ซึ่งมีส่วนผสมของเอทธีฟอน (Ethephon) ที่ช่วยกระตุ้นการสร้างแก๊สเอทิลีน ผสมน้ำยาตามอัตราส่วนที่ระบุบนฉลาก แช่กล้วยหอมคาเวนดิชลงในน้ำยาประมาณ 1-2 นาที นำขึ้นผึ่งลมให้แห้ง แล้วเก็บไว้ในอุณหภูมิห้อง กล้วยหอมจะสุกเร็วขึ้นภายใน 1-2 วัน
เคล็ดลับ:
- เลือกกล้วยหอมที่เริ่มมีสีเขียวอมเหลืองเล็กน้อย จะทำให้บ่มสุกได้ผลดีกว่า
- อย่าบ่มกล้วยในตู้เย็น เพราะจะทำให้กล้วยสุกช้าและอาจทำให้เนื้อกล้วยเละ
- อุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับการบ่มกล้วยคือ ประมาณ 18-24 องศาเซลเซียส
- ตรวจสอบกล้วยเป็นประจำ เมื่อกล้วยมีสีเหลืองตามต้องการแล้ว ควรนำออกจากถุงหรือแยกออกจากผลไม้ชนิดอื่น
ข้อควรระวัง:
- การบ่มกล้วยเป็นเพียงการเร่งกระบวนการสุกตามธรรมชาติเท่านั้น
- การใช้สารเร่งสุก ควรใช้ในปริมาณที่เหมาะสม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น