ถ้ายังไม่หันกลับมาดูแลดิน ชาตินี้ก็ยากที่จะร่ำรวย
ในเมื่อผลผลิต ต่อไร่มันต่ำ ทำได้เงินมันก็ไหลเข้ากระเป็าคนรวยหมด
เป็นค่าปุ๋ยเคมี ค่ายา...ทั้งที่เราแต่สร้างดิน ให้สมบูรณ์
สร้างพืชให้แข็งแรง มันก็ต้านทางโรคและแมลงได้แล้ว
............................................................................
ดินที่สวนลุงนะ ใส่ใจเรื่องคุณภาพดินให้มากที่สุด
เพราะมันคือก้าวแรกสู่ความสำเร็จในการทำเกษตร
.
วัดPH หรือความเป็นกรด-ด่าง ต้องได้ 6.5-7 คือเป็นกลาง
เพราะมันคือจุดหรือตำแหน่งที่เหมาะสม
ที่รากพืชสามารถจะดูด เอาอาหารไปเลี้ยงลำต้น ดอก ใบ ได้ดีที่สุด
.
ถ้าตกลงไป ถึง 4-3-2-1
เทปุ๋ยลงไปเป็น10ลํอ ยังไงก็ไม่โต เพรารากพืชมันเแาไปกินไม่ได้
แถมใบเหลืองจะตายเอา เพราะดินปล่อย โลหะหนักออกมาเยอะ
จนพืชทนไม่ได้ ใบเหลืองตายไปก็เยอะ
สำหรับความอุดมสมบูรณืของดิน ในส่วนนี้ ตงวัดได้คร่าวๆ
P-K เท่านั้นโดยรวม
(N เป็นอากาศ วัดไม่ได้ ไม่รู้เมื่อไร กรมทำลายการเกษตรมันจะถอด ออกสักที)
.
ง่ายๆ ถ้าดินมีอินทรีย์วัตถุเยอะ ก็ความสมบูรณ์เยอะ นั่นละ นั่นคือปุ๋ยในดิยมันเยอะเอง
(เข็มขั้นขนาดนี้ ไม่ต้องไปหาปุ๋ยเคมี มาใส่แล้ว รักษาระดับเอาไว้ ดีเอง)
ซื้อปุ๋ยมาใส่ ก็เหมือนเททิ้งไปเปล่าๆ
ลองนึกถึงเรา อิ่มแล้ว ก็กินไม่ไหว โยนทิ้ง เททิ้งไปเท่านั้น
.
การวัดการวิเคราะหฺ ง่ายๆ บางครั้งก็ช่วยให้เราทำเกษตร แบบไม่หลงทิศทาง
แบบใบเหลืองเพราะอะไร คำตอบที่ได้ขาดไนโตเจน ไปเลย ซื้อยูเรียมา 10กระสอบ จัดไป
(ทั้งที่สาเหตุหลุก ดินเป็นกรดจัด เทเป็นคันรถ ก็ไร้ค่า)
.
ความชื้นในดินเราพอมองออกด้วยสายตา
ยาฆ่าหญ้าฉีดเข้าไป แล้วจะหาอินทรีย์วัตถุ จากไหน
ก็เป็นทาส ปุ๋นเคมีกันทั้งชาติ
.
ลุง 5-6 ปี ซื้อยูเรียกระสอบเดียว แล้วไม่ซื้ออีกเลยจนบัดนี้
หนี้เป็นล้านสองล้าน ยังใช้ได้หมด โดยไม่มีเคมี
แล้วทุกคนละ ใช้เคมี ใช้หนี้ กันไปถึงไหนแล้ว
เห็นมีแต่เพิ่มหนี้โครงการละ 5หมื่น กับธกส กันทุกปี
ก็ใหม่โป๊ะเก่า...จากหนี้5หมื่นเป็น 5แสน ใช้เวลาทำกี่โครงการ กี่ปี
.
นาทำไป คนละ 5ไร่ เอาปุ๋ยคอกไปใส่สักไร่ละ 3 ตันดู
หยุด ยาทั้งหมด เลิกชี้นิ้ว แล้วกลับมาทำเองเหมือนเก่า
สองปี ก้คงได้แล้วมั๊งไร่ละเกวียน..นามันไม่มีธาตอาหาร
มันจะเอาอะไรไปแตกกอ แล้วสร้างต้น สร้างเมล็ด
แค่เพิ่มอาหารลงไป หว่านห่างๆ รอมันแตกกอ เท่านั้นละ..ทางรอด
ในเมื่อผลผลิต ต่อไร่มันต่ำ ทำได้เงินมันก็ไหลเข้ากระเป็าคนรวยหมด
เป็นค่าปุ๋ยเคมี ค่ายา...ทั้งที่เราแต่สร้างดิน ให้สมบูรณ์
สร้างพืชให้แข็งแรง มันก็ต้านทางโรคและแมลงได้แล้ว
............................................................................
ดินที่สวนลุงนะ ใส่ใจเรื่องคุณภาพดินให้มากที่สุด
เพราะมันคือก้าวแรกสู่ความสำเร็จในการทำเกษตร
.
วัดPH หรือความเป็นกรด-ด่าง ต้องได้ 6.5-7 คือเป็นกลาง
เพราะมันคือจุดหรือตำแหน่งที่เหมาะสม
ที่รากพืชสามารถจะดูด เอาอาหารไปเลี้ยงลำต้น ดอก ใบ ได้ดีที่สุด
.
ถ้าตกลงไป ถึง 4-3-2-1
เทปุ๋ยลงไปเป็น10ลํอ ยังไงก็ไม่โต เพรารากพืชมันเแาไปกินไม่ได้
แถมใบเหลืองจะตายเอา เพราะดินปล่อย โลหะหนักออกมาเยอะ
จนพืชทนไม่ได้ ใบเหลืองตายไปก็เยอะ
สำหรับความอุดมสมบูรณืของดิน ในส่วนนี้ ตงวัดได้คร่าวๆ
P-K เท่านั้นโดยรวม
(N เป็นอากาศ วัดไม่ได้ ไม่รู้เมื่อไร กรมทำลายการเกษตรมันจะถอด ออกสักที)
.
ง่ายๆ ถ้าดินมีอินทรีย์วัตถุเยอะ ก็ความสมบูรณ์เยอะ นั่นละ นั่นคือปุ๋ยในดิยมันเยอะเอง
(เข็มขั้นขนาดนี้ ไม่ต้องไปหาปุ๋ยเคมี มาใส่แล้ว รักษาระดับเอาไว้ ดีเอง)
ซื้อปุ๋ยมาใส่ ก็เหมือนเททิ้งไปเปล่าๆ
ลองนึกถึงเรา อิ่มแล้ว ก็กินไม่ไหว โยนทิ้ง เททิ้งไปเท่านั้น
.
การวัดการวิเคราะหฺ ง่ายๆ บางครั้งก็ช่วยให้เราทำเกษตร แบบไม่หลงทิศทาง
แบบใบเหลืองเพราะอะไร คำตอบที่ได้ขาดไนโตเจน ไปเลย ซื้อยูเรียมา 10กระสอบ จัดไป
(ทั้งที่สาเหตุหลุก ดินเป็นกรดจัด เทเป็นคันรถ ก็ไร้ค่า)
.
ความชื้นในดินเราพอมองออกด้วยสายตา
ยาฆ่าหญ้าฉีดเข้าไป แล้วจะหาอินทรีย์วัตถุ จากไหน
ก็เป็นทาส ปุ๋นเคมีกันทั้งชาติ
.
ลุง 5-6 ปี ซื้อยูเรียกระสอบเดียว แล้วไม่ซื้ออีกเลยจนบัดนี้
หนี้เป็นล้านสองล้าน ยังใช้ได้หมด โดยไม่มีเคมี
แล้วทุกคนละ ใช้เคมี ใช้หนี้ กันไปถึงไหนแล้ว
เห็นมีแต่เพิ่มหนี้โครงการละ 5หมื่น กับธกส กันทุกปี
ก็ใหม่โป๊ะเก่า...จากหนี้5หมื่นเป็น 5แสน ใช้เวลาทำกี่โครงการ กี่ปี
.
นาทำไป คนละ 5ไร่ เอาปุ๋ยคอกไปใส่สักไร่ละ 3 ตันดู
หยุด ยาทั้งหมด เลิกชี้นิ้ว แล้วกลับมาทำเองเหมือนเก่า
สองปี ก้คงได้แล้วมั๊งไร่ละเกวียน..นามันไม่มีธาตอาหาร
มันจะเอาอะไรไปแตกกอ แล้วสร้างต้น สร้างเมล็ด
แค่เพิ่มอาหารลงไป หว่านห่างๆ รอมันแตกกอ เท่านั้นละ..ทางรอด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น