เมื่อวานทั้งวัน ก็ไปหลายแปลง อยู่ หาเจ้าของสวนเจอมั่งไม่เจอมั่ง
.สำหรับ แปลงนี้ ถ้าเราดูจะเห็นพื้นที่ว่างเปล่า เยอะมาก
คือส่วนที่เป็นหญ้า และดินโดนแดดเผา ซึ่งคือภาระการทำงานที่สูญเปล่า
คือต้องกำจัดหญ้า เสียความชื้น
เป็นการทำงานที่ไม่ได้ประโยชน์หรือมูลค่าเพิ่มจากการทำงานนั้นๆ
.
ลุงเลยแนะนำให้ขุดหน่อกล้วยมาปลูกแทรกไปอีก 1เท่าตัว คือให้แทรกทุกจุดที่ว่างให้เต็ม
.
ที่นี้ทำงานเสียแรงงานเวลาทำงาน ก็จะได้ผลผลิตเพิ่มจากการทำงานนั้นๆละ.
....
ดินบริเวณนั้นทั้งทุ่ง จะเป็นทรายเยอะมาก
ม่มีอินทรีย์วัตถุเลย ก็บอกว่าหน้าหีบอ้อยให้เอาขี้เค๊ก มาลง
หรือเอาหญ้า ฟาง ดันเอาแถวๆนั้น มาทำปุ๋ยคอกแบบด่วนๆ(แนะนำไว้แล้ว)
....
หน่อเยอะเกินไป ไม่มีการไล่ลำดับเวลา ทำให้ ต้นไม่โต ก็ให้ปาดออก
.
ส่วนที่ไกล้จะออกเครือ ก็ปล่อยไป
รุ่นที่จะเกิดใหม่ก็ให้บริหารหน่อ-ดูแล ตามเวลากำหนด
เน้นปุ๋ยคอก อินทรีย์วัตถุ เพิ่มให้ได้เกิน 5% ไปถึง 8-10% ยิ่งดี
.
คงต้องรอโรงงานอ้อยเปิดละ
..........................................
ผลที่ได้ มะม่วงดองกับหน่อไม้ กลับมาจิ้มน้ำพริก 55555
มีคนพูดว่า..มันล้นตลาด มันขายได้จริงหรืิอ
ความจริงมันอยู่ที่ว่า เราเริ่มต้นกับใคร
.
หาข้อมูลก่อนหรือเปล่า ไม่ใช่มีที่นึกจะปลูกอะไรก็ปลูก
ทุกวันนี้ถ้าฉายเดี่ยว ไม่รวมกลุ่ม การจำหน่ายก็ยากขึ้น
ไม่ใช่เฉพาะกล้วย สินค้าเกษคตรทุกชนิดมันขายได้ ถ้ารวมกลุ่ม
เพราะ...มันง่ายต่อการรวบรวมสินค้า
.
อย่างของลุง..ถ้าจะปลูก ลุงต้องถามสารพัด พื้นที่ น้ำ ปริมาณที่จะลง
และ พร้อมที่จะดูแล ตามที่เรากำหนดไหม(เพราะมันหมายถึงคุณภาพสินค้า)
.
ถ้าคิดว่าทำได้ ลุงถึงจะให้ปลูกในกลุ่ม มีการติดตาม ให้คำแนะนำตลอด(ย่งรูปมาทุกอาทิตย์) แต่บางคนก็ไม่เคยส่งเลย ก็ไม่รู้จะแนะนำยังไง สินค้าออกมาก็ไม่ดีในช่วงสุดท้าย แก้ไขไม่ทัน มันก็ไปได้แค่โรงงานกล้วยตาก เข้าตลาดใหญ่ๆไม่ได้
.
การวางแผนการตัด แต่ละสาย แต่ละเส้นทาง มันมีการกำหนด คุยกันตลอด
รู้ปริมาณ ในแต่ละเดือนที่จะออก ประมาณความเสี่ยง ในเดือนต่อไปกับ แม่ค้าปลายทาง
.
การวางแผน การคาดการณ์ จึงสำคัญ คือต้องรู้ตลาด...ถ้าเราทำไปดุ่ยๆ มันก็ลำบาก
.
ในกลุ่มของลุงจึงไม่มีปัญหาเรื่องการขาย เพราะกล้วยในมือ มีปริมาณเยอะมาก ของขาดเราก็มีให้แม่ค้า ของอืดๆ เราก็ของแม่ค้าลงได้ เพราต้องพึ่งพากัน ทั้งชีวิต
.
เรื่องกล้วยล้นตลาด แล้วขายไม่ได้ จึงไม่มีปัญหาในกลุ่มของลุง..ตรงนี้ละคือหัวใจในการทำงาน
.
ราคาซื้อก็นิ่งๆ อยู่ที่ 5บาทต่อโล ที่นี้ใครทำได้หวีใหญ่ ตามสเตปการดูและก็ได้ 12-17บาท/หวีหน้าสวน เพราะถ้าดูแล ตามที่ลุงบอกมันใหญ่ 2โลกว่า-3โลกว่า
.
มันก็อยู่กันได้แบบเงียบๆ กลุ่มเล็กๆ ก็เลยไม่มีปัญหา
.
ที่นอกกลุ่มไม่รับ เพราะ ยังไงุงก็ต้องดูแล ในกลุ่มให้ไปได้ดีที่สุด
เพราะคน 1 คนไม่สามารถรับภาระคนทั้งหมดให้ดีได้
กำลังการทำงาน ของลุงมันมีเท่านั้น .. คิด ทำ วางแผน ต่อติดประสานงานคนเดียว
(ต้นทุนการทำงาน ก็มีจำกัด ช่วงนี้ไม่ได้กำไรสักบาท ได้เท่าไร ให้คนงานกับรถหมด แต่ต้องควักเงินตัวเอง เดินทางเยี่ยมลูกสวน) ตรงนี้ละคือข้อจำกัดที่รับนอกกลุ่มไม่ได้
.
บางครั้งเราขับรถเปล่าๆ ลงพื้นที่ตรวจแปลงกล้วย ด้วยทุนของเราเอง
เพราะเราเองก็กลัวว่าเดี๋ยวออกผลมา จะไม่ได้ตามที่เราหวัง มันจะเสียราคา
.
สวัสดี
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น