จริงๆ น้ำหมักนี่ ผมไม่ได้ใช้กากน้ำตาล มานานแล้วนะ
ในกระบวนการแรก ก็คือมีน้ำครึ่งวง เท่านั้น แล้วก็ทะยอยเอาของเหลือในครัว ขยะเปียกทุกชนิด ยันเปลือกทุเรียนนั่นละใส่ไปทุกวันเท่าที่มี กล้วย อ้อย เปลือกขนุน ข้าวเย็น น้ำล้างชาม น้ำซาวข้าว คือทุกชนิดที่มีในบ้าน ในสวน...เพราะยังไงมันก็มีน้ำตาลในตัว น้ำมะพร้าว(ถ้ายังพอเหลือจากล้างหน้า 555) คือใส่ไปทุกวัน นั่นตือวงที่ 1 ใส่ไปจนเต็ม
.
พอวงที่ 1 เต็ม ก็ตักน้ำที่ได้จากวงที่ 1 มาใส่วงที่ 2 ก็ทะยอย ตักมาอยู่อย่างนั้น วงที่2 ก็ใส่แร่ธาตุก้อนของวัว สักก้อน2ก้อน ใส่รำละเอียด ใส่อาหารไก่ อาหารหมู ตามมีตามเกิด น้ำมะพร้าวไปขอไปเก็บได้ทุกวัน ตั้งทิ้งไว้สักเดือน....อย่าลืม พด 2 ของฟรีไปขอมา ใส่ไปวงละ 10-20ซองเลย
.
เท่านี้เราก็มี น้ำหมัก ใช้ทั้งปีทั้งชาติ กาก ถ้ามันเก่ามันล้น ก็กรองเอาไปทำปุ๋ยหมักปุ๋ยคอกต่อไป
.
อย่ายึดติดกับสูตรมากนัก เพราะมันทำให้คุณไปต่อไม่ได้ มียังไงก็ใช้อย่างนั้น..ทำเองใช้ได้บ่อย ใช้ได้เยอะ
.
แค่นี้ก็ไม่ต้องซื้อปุ๋ยแล้ว เพราะมันครบวงจรทั้งน้ำหมักและปุ๋ยคอก จากการทำงานครั้งเดียว ไม่มีปัญหาเรื่องขยะล้นเมืองด้วย เพราะเอามาทำปุ๋ยจนหมด
ในกระบวนการแรก ก็คือมีน้ำครึ่งวง เท่านั้น แล้วก็ทะยอยเอาของเหลือในครัว ขยะเปียกทุกชนิด ยันเปลือกทุเรียนนั่นละใส่ไปทุกวันเท่าที่มี กล้วย อ้อย เปลือกขนุน ข้าวเย็น น้ำล้างชาม น้ำซาวข้าว คือทุกชนิดที่มีในบ้าน ในสวน...เพราะยังไงมันก็มีน้ำตาลในตัว น้ำมะพร้าว(ถ้ายังพอเหลือจากล้างหน้า 555) คือใส่ไปทุกวัน นั่นตือวงที่ 1 ใส่ไปจนเต็ม
.
พอวงที่ 1 เต็ม ก็ตักน้ำที่ได้จากวงที่ 1 มาใส่วงที่ 2 ก็ทะยอย ตักมาอยู่อย่างนั้น วงที่2 ก็ใส่แร่ธาตุก้อนของวัว สักก้อน2ก้อน ใส่รำละเอียด ใส่อาหารไก่ อาหารหมู ตามมีตามเกิด น้ำมะพร้าวไปขอไปเก็บได้ทุกวัน ตั้งทิ้งไว้สักเดือน....อย่าลืม พด 2 ของฟรีไปขอมา ใส่ไปวงละ 10-20ซองเลย
.
เท่านี้เราก็มี น้ำหมัก ใช้ทั้งปีทั้งชาติ กาก ถ้ามันเก่ามันล้น ก็กรองเอาไปทำปุ๋ยหมักปุ๋ยคอกต่อไป
.
อย่ายึดติดกับสูตรมากนัก เพราะมันทำให้คุณไปต่อไม่ได้ มียังไงก็ใช้อย่างนั้น..ทำเองใช้ได้บ่อย ใช้ได้เยอะ
.
แค่นี้ก็ไม่ต้องซื้อปุ๋ยแล้ว เพราะมันครบวงจรทั้งน้ำหมักและปุ๋ยคอก จากการทำงานครั้งเดียว ไม่มีปัญหาเรื่องขยะล้นเมืองด้วย เพราะเอามาทำปุ๋ยจนหมด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น