อาการพืชขาด เหล็ก แมงกานิส สังกะสี ทองแดง
.
จะแสดงอาการที่ใบอ่อน
จะมีสีเหลืองระหว่างเส้นใบ
.
อาการขาดสังกะสี
ใบจะเล็กและแข็งกระด้าง
.
พึงระลึกไว้สเมอว่า ถ้า ค่าพีเอชต่ำ
เหล็ก แมงกานิส สังกะสี ทองแดง ละลายมาก
จนอาจจะเป็นพิษกับพืช
.
พื้นที่ที่น่าจะขาดคือสวนที่ใช้ปุ๋ย 8-24-24 เป็นประจำ
เพราะค่า ฟอสฟอรัส มันสูงมาก มันตกตะกอน
.........
สังกะสี
Zn, Mn, Fe, Cu และ B
.จะแสดงอาการที่ใบอ่อน
จะมีสีเหลืองระหว่างเส้นใบ
.
อาการขาดสังกะสี
ใบจะเล็กและแข็งกระด้าง
.
พึงระลึกไว้สเมอว่า ถ้า ค่าพีเอชต่ำ
เหล็ก แมงกานิส สังกะสี ทองแดง ละลายมาก
จนอาจจะเป็นพิษกับพืช
.
พื้นที่ที่น่าจะขาดคือสวนที่ใช้ปุ๋ย 8-24-24 เป็นประจำ
เพราะค่า ฟอสฟอรัส มันสูงมาก มันตกตะกอน
.........
สังกะสี
- เป็นธาตที่ขาดมากที่สุด ในสวนผลไม้ เพราะในดินไม่ได้มีธาตุชนิดนี้มากนัก
- มีความจำเป็นต่อการขยายขนาดและการยึดตัวของพืช ถ้าไม่มีใบจึงเล็กและข้อจะชิดๆ
- มีบทบาทต่อการสร้างคลอโรฟิลล์และออร์โมน
- ไม่เคลื่อนที่ในพืช ถ้าขาดจะแสดงที่ใบอ่อนก่อน
- สังกะสีละลายได้ดีในดินกรด
- ดินที่มีฟอสฟอรัสสูง สังกะสีจะละลายได้ไม่ดี(นี่คือตัวประสำหรับสวนที่ใช้ 8-24-24) ที่การแก้ใขมันยากยิ่งกว่าเข็นภูเขาขึ้นครก เพราะ ฟอสฟอรัสมันอยู่ในดิน ใส่สังกะสีเข้าไป มันก็ไม่เป็นผล มันจึงจำเป็นต้องใช้วิธีฉีด บ่อยๆ ฉีดเยอะๆ นั่นคือทางแก้ปัญหา
อาการขาดสังกะสี ที่พอจะสังเกตุได้
- แคระแกน ใบเล็ก ไม่ออกดอก ติดผลลดลง
- พื้นที่ระหว่างเส้นใบ มีสีเหลือง
- ข้อสั้นทำให้ใบรวมกันเป็นกระจุก
- ใบหนา แข็งกระด้าง
การแก้ใข อาการขาดสังกะสี
- ฉีดพ่นทางใบ โดยใช้ความเข้มข้นสูงกว่าฉลาก 3 เท่า ใบไหม้ช่างมันเดี๋ยวมันก็หาย
- ใส่ทางดิน แต่จะไม่ค่อยได้ผล ในสวนที่มีฟอสฟอรัสตกค้างสูง
- ถ้าดินเป็นด่าง ให้ลดค่าด่างลงมา แต่ทำได้ยาก กำมะถันผงมันแพง 55
อาการขาดเหล็กและแมงกานิส
- มีสีแหลืองระหว่างเส้นใบ
- ขนาดใบปกติ
- บางครั้งแยกไม่ออก อาการจะคล้ายกัน
- ต้องใช้ค่าวิเคราะห์พืชช่วย
แมงกานิส
- เป็นตัวกระตุ้นการทำงานของเอ็มไซด์
- มีบทบาทในกระบวกการสร้างครอโรฟิลล์
- ไม่เคลื่อนที่ในพิช ถ้าขาดต้องดูที่ใบอ่อนก่อน
- เกี่ยวข้องในกระบวนการออกซิเดชั่น-รีดักชั่น
ดังนั้นถ้า พิเอชของดินลดลง แมงกานิสจะละลายออกมาได้ดีกว่าเหล็กและสังกะสีจนอาจเป็นพิษได้
ดังนั้นจึงลองดูว่า สภาพที่ดินแฉะๆ แมงกานิสจึงละลายออกมาแยะ จนเป็นพิษได้
.
จะสังเกตุว่า ข้าวจะไม่ค่อยขาดสังกะสี เพราะสภาพการปลูกมันส่งเสริมให้สังกะสีละลาย
ทีนี้มาดูการขาดแมงกานิส ใบอ่อนของพืช จะมีสีเหลืองระหว่างเส้นใบ
ถ้ามันรุนแรงก็จะเกิดแห้งตายเป็นจุดหรือเป็นแถบ
..
ถ้าเกิดอาการแมงกานิสเป็นพิษ จะทำไห้ขาดเหล็ก
......
เหล็ก เป็นส่วนสำคัญในการสร้างดลอโรฟิลล์ เป็นสารสำคัญในกระบวกการถ่ายทอดอิเล็กตรอนของพืช
อาการขาดธาตุเหล็ก
- จะพบในดินที่เป็นด่าง
- ในดินที่มีฟอสฟอรัสสูง
- ใบอ่อนมีสีเหลืองระหว่างเส้นใบ แต่เส้นใบยังเขียวอยู่
- ถ้าขาดรุนแรง ใบจะมีสีเหลืองซีดทั้งใบ ดูต้นยูคาเป็นตัวอย่าง ตายเรียบ
....................
ทองแดง (Cu)
- สร้างคลอโรฟิลล์ การสังเคราะห์แสง และการหายใจของพิช
- การทำงานของเอมไซด์ที่เกี่ยวของกับการสังเคราะห์ลิกนิน ซึ่งเพิ่มความแข็งแรงของพืช
- เสริมสร้างการสร้างเมล็ดของพืช ถ้าขาดทองแดงเมล็ดจะลีบ ดินพรุ จึงปลูกอะไร ไม่มีเมล็ด เพราะมันขาดทองแดง
@ลิกนิน คือองค์ประกอบของเนื้อไม้ คือทำไห้แข็ง
อาการขาดทองแดง
- ปรากฏที่ใบอ่อนก่อน
- ใบอ่อนมีสีเหลือง ใบมีขนาดเล็กลง ใบแห้งโดยเริ่มจากปลายใบ ทำให้ใบบิดงอ
- พืชที่ขาดทองแดง ใบจะเหี่ยวง่าย
- ถ้ารุนแรง จะแห้งตายจากยอดลงมา
............
การจะบอกว่า พืช ขาดหรือไม่่ขาด จุลธาตุ ต้องดูที่ ใบ อย่างเดียว
ไม่สามารถดูที่ดินได้ เพราะว่า เราไม่รู้ว่าในดิน มีธาตุอะไรมาก หรือน้อยเท่าไร
ถ้าตัวใดตัวนึงมีมาก มันจะไปกด อีกตัวให้น้อยลง จึงต้องวิเคราะห์จาก ใบเท่านั้น
.......
การจัดการ เหล็ก ทองแดง แมงกานีส สังกะสีคือ
- ปรับค่าพีเอช ของดิขให้เหมาะสม
- ลดการใช้ฟอสฟอรัส (ลดปุ๋ยสูตร8-24-24)เพราะมันจะไปกด ธาตุอื่นลง
- ฉีดพ่นทางใบช้วย เมื่อตอนใบยังไม่แก่ ในปริมาณที่เข้มข้นกว่าฉลาก และฉีดบ่อย
สารเคมีที่ใช้ฉีดพ่นได้
- สังกะสี...สังกะสีซัลเฟต
- แมงกานิส...แมงกานิสซัลเฟต
- เหล็ก...ควรอยู่ในรูปของคีเลต
- ทองแดง...ทองแดงซัลเฟต
..
โรอน (B)
- จำเป็นสำหรับส่วนที่กำลังเรจิญเติบโต เช่นการแตกใบอ่อน รากและผล
- เป็นส่วนประกอบของผนังเซลล์
- จำเป็นต่อการผสมเกษรเกี่ยวข้องกับการทำงานของ ฮอร์โมน
โบร่อน
โบร้อน ไม่เครื่อนที่ในพืช
ผลและดอกมักจะขาดโบร่อนมากกว่าใบ
ช่วงห่างระหว่างขาด กับเป็นพิษ จะแคบ
การฉีดพ่น ได้ผลดีมากกว่า ควรฉีดพ่นทุกปี เพราะมันไม่ตกค้าง มันเป็นประจุ ลบ ฝนตกมามันก็หายไป
.
สิ่งที่ควรจำ พืชที่มีน้ำมัน มียาง ต้องการโบร่อนสูง