ดร.ธัญญา ทะพิงค์แก ได้พัฒนาวิธีการเพาะเห็ดแบบง่าย โดยที่วัสดุเพาะเห็ดไม่จำเป็นต้องผ่านการฆ่าเชื้อด้วยหม้อนึ่งความดัน แต่ใช้น้ำยาล้างแผลไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ (Hydrogen peroxide; H2O2) ซึ่งหาซื้อได้ง่ายตามร้านขายยาทั่วไปในการควบคุมการปนเปื้อนจากเชื้อแปลกปลอม และใช้หม้อหุงข้าวไฟฟ้าในการเตรียมวัสดุเพาะเห็ด นอกจากนี้ยังได้มีการพัฒนาเชื้อเห็ดน้ำโดยใช้วัสดุขวดน้ำพลาสติกที่ใช้แล้วแทนไบโอรีแอคเตอร์ซึ่งมีราคาแพงในการผลิต เชื้อเห็ดน้ำสามารถนำมาใช้แทนเชื้อเมล็ดข้าวฟ่างแบบเดิมที่ใช้กัน วิธีการที่พัฒนาขึ้นมานี้สามารถใช้เพาะเห็ดได้หลายชนิด เช่น เห็ดในตระกูลถังเช่า (ถังเช่าสีทอง, ถังเช่าหิมะ, เห็ดจักจั่น) เห็ดหัวลิง เห็ดหลินจือ เห็ดนางฟ้า นางรม เห็ดฟาง เห็ดหูหนู เห็ดโคนญี่ปุ่น เห็ดนางรมหลวง เป็นต้น
ซึ่งเมื่อหลายปีก่อน ดร. ธัญญา ทะพิงค์แก คณะเทคโนโลยีการเกษตร มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ มีผลงานด้านการเพาะเห็ดถังเช่า เพื่อใช้เป็นอาหารและยา โดยใช้เชื้อเห็ดถังเช่าทิเบตมาขยายพันธุ์แบบง่ายๆ พร้อมทั้งจัดฝึกอบรมให้แก่เกษตรกรและผู้สนใจจำนวนมาก จนสามารถนำไปประกอบอาชีพเป็นรายได้แก่ครอบครัวในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ สำหรับผลงานใหม่ที่นำเสนอในปีนี้คือ เห็ดถังเช่าสีทอง
ดร. ธัญญา ทะพิงค์แก เล่าให้ฟังว่า เห็ดถังเช่าสีทองนั้นมีการเพาะกันมานานหลายสิบปีแล้ว ที่ประเทศจีน เช่น บริษัท เจียวสู เจียงหนาน ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา เช่น บริษัท ไบโอเกน แต่ละบริษัทผลิตจำหน่ายเดือนละหลายตัน มีผู้บริโภคเห็ดถังเช่ากันมาก เนื่องจากเห็ดถังเช่ามีคุณสมบัติที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ ด้วยคุณสมบัติที่ดีหลายประการและหายาก ทำให้เห็ดถังเช่ามีราคาแพง ราคากิโลกรัมละ 3 แสนบาทขึ้นไป จนได้สมญาว่า ทองคำแห่งสมุนไพรจีน ทำให้มีเห็ดถังเช่าปลอมหรือมีสิ่งอื่นเจือปน หากทุกคนได้เรียนรู้และปฏิบัติด้วยตนเอง ก็สามารถบริโภคและจำหน่ายได้ในราคาไม่แพงนัก
เห็ดถังเช่าสีทองสามารถเพาะได้ด้วยการใช้แมลงหลายชนิด ตัวหนอนหรือดักแด้ไหม หรือใช้อาหารสังเคราะห์ ชักนำให้ออกเป็นดอกเห็ดในที่อากาศเย็น หากผลิตเป็นอุตสาหกรรมก็สามารถใช้เมล็ดธัญพืชทดแทนแมลงหรือตัวหนอนได้ แต่ในที่นี้ขอแนะนำเกษตรกรผลิตแบบครัวเรือนเพื่อใช้บริโภคคือ ใช้เมล็ดธัญพืชที่หาได้ง่ายในท้องถิ่น ใช้หม้อหุงข้าวแทนหม้อนึ่งความดันที่มีราคาแพง
ภาชนะที่ใช้เพาะเห็ดถังเช่าสีทอง ใช้ได้ตั้งแต่ถุงพลาสติก กล่องพลาสติก ขวดแก้ว วิธีเพาะใช้ข้าวสาร 1 กิโลกรัม ใส่ลงในหม้อหุงข้าวไฟฟ้า แนะนำว่าให้ใช้ข้าวใหม่ ที่ดูดซับน้ำได้น้อย บดวิตามินบี 1 จำนวน 2 เม็ด ให้ละเอียดผสมไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ 3 เปอร์เซ็นต์ 50 ซีซี น้ำส้มสายชู 5 เปอร์เซ็นต์ 10 ซีซี ลงในขวดพลาสติก ปิดฝาให้แน่น เขย่าให้ส่วนผสมเข้ากันนาน 10 นาที จากนั้นเติมน้ำลงไปให้ได้ปริมาตร 1 ลิตร เทลงในหม้อหุงข้าว และหุงจนข้าวสุก ตักข้าวใส่ภาชนะที่ผ่านการฆ่าเชื้อโรคแล้ว เช่น ขวดโหลแก้ว ถ้วยพลาสติกทนความร้อน รอจนข้าวเย็น เขี่ยเชื้อเห็ดถั่งเช่าสีทองลงไป ปิดภาชนะให้สนิท ควรเขี่ยเชื้อในห้องที่ปิดมิดชิด เพื่อป้องกันเชื้อโรค
จากนั้นนำไปบ่มเก็บไว้ในที่มืดในห้องคุมอุณหภูมิ 22-25 องศาเซลเซียส จนกระทั่งเชื้อเห็ดเดินเติมที่ ก็เก็บไว้ในห้องเย็นที่อุณหภูมิ 15-18 องศาเซลเซียส และให้แสงวันละ 12-14 ชั่วโมง ความเย็นจะกระตุ้นให้เกิดดอก ส่วนแสงนั้นจะทำให้เห็ดเปลี่ยนเป็นสีเหลืองทอง ดังนั้นเกษตรกรต้องมีห้องเย็นสำหรับเพาะเห็ดชนิดนี้ หลังจากเชื้อเห็ดเดินเต็มที่ ใช้เวลาเลี้ยงอีก 1-2 เดือน ก็สามารถเก็บได้
ขอบคุณๆๆๆๆๆ ท่านที่แบ่งปัน ผมก็อบมาล้วนๆ เห็นมีประโยชน์จริงทำได้ง่าย
ซึ่งเมื่อหลายปีก่อน ดร. ธัญญา ทะพิงค์แก คณะเทคโนโลยีการเกษตร มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ มีผลงานด้านการเพาะเห็ดถังเช่า เพื่อใช้เป็นอาหารและยา โดยใช้เชื้อเห็ดถังเช่าทิเบตมาขยายพันธุ์แบบง่ายๆ พร้อมทั้งจัดฝึกอบรมให้แก่เกษตรกรและผู้สนใจจำนวนมาก จนสามารถนำไปประกอบอาชีพเป็นรายได้แก่ครอบครัวในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ สำหรับผลงานใหม่ที่นำเสนอในปีนี้คือ เห็ดถังเช่าสีทอง
ดร. ธัญญา ทะพิงค์แก เล่าให้ฟังว่า เห็ดถังเช่าสีทองนั้นมีการเพาะกันมานานหลายสิบปีแล้ว ที่ประเทศจีน เช่น บริษัท เจียวสู เจียงหนาน ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา เช่น บริษัท ไบโอเกน แต่ละบริษัทผลิตจำหน่ายเดือนละหลายตัน มีผู้บริโภคเห็ดถังเช่ากันมาก เนื่องจากเห็ดถังเช่ามีคุณสมบัติที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ ด้วยคุณสมบัติที่ดีหลายประการและหายาก ทำให้เห็ดถังเช่ามีราคาแพง ราคากิโลกรัมละ 3 แสนบาทขึ้นไป จนได้สมญาว่า ทองคำแห่งสมุนไพรจีน ทำให้มีเห็ดถังเช่าปลอมหรือมีสิ่งอื่นเจือปน หากทุกคนได้เรียนรู้และปฏิบัติด้วยตนเอง ก็สามารถบริโภคและจำหน่ายได้ในราคาไม่แพงนัก
เห็ดถังเช่าสีทองสามารถเพาะได้ด้วยการใช้แมลงหลายชนิด ตัวหนอนหรือดักแด้ไหม หรือใช้อาหารสังเคราะห์ ชักนำให้ออกเป็นดอกเห็ดในที่อากาศเย็น หากผลิตเป็นอุตสาหกรรมก็สามารถใช้เมล็ดธัญพืชทดแทนแมลงหรือตัวหนอนได้ แต่ในที่นี้ขอแนะนำเกษตรกรผลิตแบบครัวเรือนเพื่อใช้บริโภคคือ ใช้เมล็ดธัญพืชที่หาได้ง่ายในท้องถิ่น ใช้หม้อหุงข้าวแทนหม้อนึ่งความดันที่มีราคาแพง
ภาชนะที่ใช้เพาะเห็ดถังเช่าสีทอง ใช้ได้ตั้งแต่ถุงพลาสติก กล่องพลาสติก ขวดแก้ว วิธีเพาะใช้ข้าวสาร 1 กิโลกรัม ใส่ลงในหม้อหุงข้าวไฟฟ้า แนะนำว่าให้ใช้ข้าวใหม่ ที่ดูดซับน้ำได้น้อย บดวิตามินบี 1 จำนวน 2 เม็ด ให้ละเอียดผสมไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ 3 เปอร์เซ็นต์ 50 ซีซี น้ำส้มสายชู 5 เปอร์เซ็นต์ 10 ซีซี ลงในขวดพลาสติก ปิดฝาให้แน่น เขย่าให้ส่วนผสมเข้ากันนาน 10 นาที จากนั้นเติมน้ำลงไปให้ได้ปริมาตร 1 ลิตร เทลงในหม้อหุงข้าว และหุงจนข้าวสุก ตักข้าวใส่ภาชนะที่ผ่านการฆ่าเชื้อโรคแล้ว เช่น ขวดโหลแก้ว ถ้วยพลาสติกทนความร้อน รอจนข้าวเย็น เขี่ยเชื้อเห็ดถั่งเช่าสีทองลงไป ปิดภาชนะให้สนิท ควรเขี่ยเชื้อในห้องที่ปิดมิดชิด เพื่อป้องกันเชื้อโรค
จากนั้นนำไปบ่มเก็บไว้ในที่มืดในห้องคุมอุณหภูมิ 22-25 องศาเซลเซียส จนกระทั่งเชื้อเห็ดเดินเติมที่ ก็เก็บไว้ในห้องเย็นที่อุณหภูมิ 15-18 องศาเซลเซียส และให้แสงวันละ 12-14 ชั่วโมง ความเย็นจะกระตุ้นให้เกิดดอก ส่วนแสงนั้นจะทำให้เห็ดเปลี่ยนเป็นสีเหลืองทอง ดังนั้นเกษตรกรต้องมีห้องเย็นสำหรับเพาะเห็ดชนิดนี้ หลังจากเชื้อเห็ดเดินเต็มที่ ใช้เวลาเลี้ยงอีก 1-2 เดือน ก็สามารถเก็บได้
ขอบคุณๆๆๆๆๆ ท่านที่แบ่งปัน ผมก็อบมาล้วนๆ เห็นมีประโยชน์จริงทำได้ง่าย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น