ก็เอาจากที่ลุง คุยๆกันไว้ในกลุ่ม สมุนไพรนะ
1.ยอตากแห้ง ขายได้ทั้งปี ถ้ามีปริมาณมากพอ สัก 1000 ต้น ต้องคิดถึงเรื่องเครื่องหั่นและตากด้วยนะ เพราะมันคือเครื่องมือการแปรรูป
.
2.ถั่วดาวอินคา ถ้ามีทุนซื้อเสา เรื่องตลาดผ่านตลอด ถ้าไม่มีทุน ให้ผ่านไปก่อน
.
3.หญ้าปักกิง 0.5-1 ไร่ ขึ้นไป มีโอกาส ทำตลาดได้ง่าย
.
4.หญ้าหวาน 0.5-1 ไร่ ขึ้นไป
.
5.กระเจี๊บแดง เก็บรอราคาได้
.
6.มะรุมตากแห้ง ขายได้ตลอด เก็บรอราคาได้
.
เหล่านี้คือ บางสว่นที่ปริมาณการซื้อขาย อยู่ใน ปริมาณมาก ระกับ เป็นตันๆ ขึ้นไป
.
ก็จะมีสมุนไพรอีกสว่นนึง ที่การซื้อขาย จะเป็นลักษณะ ขายตรงผู้บริโภค
คือ ขายได้ทีละ 1-5-10 โล
.
แต่ถ้าไม่เกี่ยงเรื่องราคา พวก เครื่องแกง ราคามันถูก แต่มันก็อยู่ในกลุ่มสมุนไพร โรงงานซื้อเยอะ แต่ยุ่งยากในการจัดการ
.
เพราะฉนั้น สิ่งที่บอก ข้างบนนั่นละ ไม่มีปัญหาเรื่องตลาดมากนัก เรียกว่า ขายได้เรื่อยๆ อาจมีรอเวลาบ้างในบางครั้ง แต่ไม่นานก็ขายได้เอง มันเป็นอย่างนี้ตลอดเวลา
.
ก็เป็น แนวทางในการพิจารณา หารายได้กัน เพราะพืชพวกนี้ ไม่ต้องการดูแล อะไรเลย แค่รดน้ำ ใช้น้ำหมัก ปุ๋ยคอก บ้าง มันก็ทำรายได้แล้ว ลองคิดดูเพื่อเป็นแนวทาง
1.ยอตากแห้ง ขายได้ทั้งปี ถ้ามีปริมาณมากพอ สัก 1000 ต้น ต้องคิดถึงเรื่องเครื่องหั่นและตากด้วยนะ เพราะมันคือเครื่องมือการแปรรูป
.
2.ถั่วดาวอินคา ถ้ามีทุนซื้อเสา เรื่องตลาดผ่านตลอด ถ้าไม่มีทุน ให้ผ่านไปก่อน
.
3.หญ้าปักกิง 0.5-1 ไร่ ขึ้นไป มีโอกาส ทำตลาดได้ง่าย
.
4.หญ้าหวาน 0.5-1 ไร่ ขึ้นไป
.
5.กระเจี๊บแดง เก็บรอราคาได้
.
6.มะรุมตากแห้ง ขายได้ตลอด เก็บรอราคาได้
.
เหล่านี้คือ บางสว่นที่ปริมาณการซื้อขาย อยู่ใน ปริมาณมาก ระกับ เป็นตันๆ ขึ้นไป
.
ก็จะมีสมุนไพรอีกสว่นนึง ที่การซื้อขาย จะเป็นลักษณะ ขายตรงผู้บริโภค
คือ ขายได้ทีละ 1-5-10 โล
.
แต่ถ้าไม่เกี่ยงเรื่องราคา พวก เครื่องแกง ราคามันถูก แต่มันก็อยู่ในกลุ่มสมุนไพร โรงงานซื้อเยอะ แต่ยุ่งยากในการจัดการ
.
เพราะฉนั้น สิ่งที่บอก ข้างบนนั่นละ ไม่มีปัญหาเรื่องตลาดมากนัก เรียกว่า ขายได้เรื่อยๆ อาจมีรอเวลาบ้างในบางครั้ง แต่ไม่นานก็ขายได้เอง มันเป็นอย่างนี้ตลอดเวลา
.
ก็เป็น แนวทางในการพิจารณา หารายได้กัน เพราะพืชพวกนี้ ไม่ต้องการดูแล อะไรเลย แค่รดน้ำ ใช้น้ำหมัก ปุ๋ยคอก บ้าง มันก็ทำรายได้แล้ว ลองคิดดูเพื่อเป็นแนวทาง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น