เคยคิด เคยฝันว่าเกษตรกร จะสามารถ ส่งออกกล้วยน้ำว้าได้ ถ้าเราจัดการ บริหารคุณภาพสินค้า ให้มีคุณภาพดีพอ ลุงคิดแบบนี้มาตลอด การวางแผนงานจึงเริ่มต้น อย่างช้าๆ เงียบๆ
- วางแผนการผลิต เพื่อให้ได้สินค้าที่เหมือนกัน โดยพยายาม รวมกลุ่ม เพื่อให้การดูแลเหมือนกันทั้งหมด แต่เกษตรกรก็ไม่ค่อยสนใจ ยังต่างคนต่างทำเหมือนเดิน
- เรียนรู้กระบวนการแพคกิ้ง การจัดการสินค้าเพื่อส่งออก ตลอดเวลา
- ทำความรู้จัก คนส่งออก เท่าที่จะทำได้เพื่อ ประสานงาน ขอความรู้ และความร่วมมือในการทำงาน
- นี่คือสิ่งที่ลุงทำมาตลอดเวลา
.วันนี้ ลุงกำลังพยายามส่งกล้วยน้ำว้าไปจีน กับมาเลเซีย แต่ปัญหาที่ลุงกลัวที่สุดคือ จำนวนสินค้าและคุณภาพสินค้า เพราะรวมกลุ่มได้ไม่เพียงพอต่อการส่งออก ต่างตนต่างทำ เลยควบคุมกระบวนการปลูกไม่ได้ตั้งแต่เริ่ม สินค้าที่มี มันเลยไม่ตรงตามกำหนด มีแต่คนอยากจะขายแต่ไม่อยากทำไห้ดี
.
ที่จริงราคา มันดีกว่าที่อื่น แต่ที่ไม่กล้าปล่อยราคาเพื่อรู้อยู่เต็มที่คือ สินค้าไม่ตรงสเปค มันเลยปล่อยราคาไม่ได้...ฉนั้นบางครั้งการประกาศซื้อ จึงบอกราคาไม่ได้ เพราะคุณภาพกล้วย ของไทยยังต่ำมาก ยังไม่มีสวนกล้วยที่ดีพอ ปัญหานี้ลุงรับรู้มาตลอด ถึงพยายามรวมกลุ่ม แต่ก็ได้ไม่มากพอที่จะทำส่งออกได้
.
บ่นแต่ราคาไม่ดี ทั้งที่กล้วยทำไม่ได้เกรด 60-80% ทำได้แต่กล้วยเหมา เครือเล็กๆ 4-5 หวีไปเสียค่อนสวน กล้วยเหมา ราคาโลละ 1.5 บาทหวีละ 2 บาท มีเกลื่อนประเทศ ราคามันถึงดิ่งลงเหว เพราะกล้วยพวกนี้มันคือตัวดึงราคาลง
.
มีคนไม่กี่กลุ่ม ที่ทำกล้วยได้ เกรดดีๆ ส่วนนี้ราคาเขาไปได้ หวีละ7-8บาท ราคาส่ง ราคาณ.ปัจจุบัน เขาก้ยังพออยู่ได้ ไม่เดือดร้อน
แต่ปริมาณกล้วยเกรดนี้มันน้อยเกินไป ทำให้ไปต่อไม่ได้ เพราะไม่พอส่ง ตรงนี้คืออุปสรรค ที่กล้วยของเราจะไปต่อไม่ได้
.
เราสู้จีนไม่ได้ในเรื่องความคิด ความพยายาม เพราะเราไม่ยอมเปลี่ยน ไม่ยอมรับแทบจะเรียกได้ว่า ไม่เคยพัฒนาเลยก็ได้ในเรื่องความรู้และการปรับเปลี่ยนในเข้ากับโลกปัจจุบัน
ไม่เคยแม้กระทั่งจะคิดถึงวิธีการใหม่ๆในการทำเกษตร ไม่ลอง ไม่เรียนรู้ ด้วยตัวเอง จนวันนี้เราล้าหลังไปแล้ว เขาเพิ่มผลผลิตไปไร่ละ 600-800ต้น ใช้ระบบน้ำ ใช้การควมคุม สภาพอากาศ ลองไปดูสวนกล้วย บ้านเรา ยังนั่งรอน้ำฝนจากเทวดา โทษฟ้าโทษดิน ว่าไม่ดี มากี่ร้อยปี...
.
โลกวันนี้จนเขาปลูกกันแบบไม่ต้องใช้ดิน บ้านเรา100ปีมานั่งบ่น ดินไม่ดี แต่ไม่เคยคิดปรับให้มันดี ปุ๋ยเขาให้ทำเอง ก็ไม่ทำ วิ่งเอาตังไปซื้อเขามันง่าย รายได้ไม่มี ขี้เกียจ ผลผลิตต่อไร่ ต่ำแทบติดดิน ต้นทุนสูงเทียมฟ้า
.
มันคงยากที่จะไปต่อได้ ตราบใดทียังโทษทุกอย่างที่อยู่รอบตัว แต่ไม่กลับมาโทษตัวเอง มันก็ยังคงได้กล้วยโลละ 1-3 บาทกันต่อไป แบบนี้ละ สวัสดี
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น