.........................................................................
วันที่ 15-11-60
วันนี้รถไถ เข้ามาทำงาน
พอพลิกหน้าดินเสร็จ ก็ตรวจวัด สภาพดินและอินทรีย์วัตถุ
พร้อมวางแผนงาน ในการปลูก ระยะ 2+2 เมตร
คงต้องใช้ เชือกขึง แล้วหยอดปูนขายเป็นจุดๆ เพือให้แบคโฮ ขุดหลุมทันที
.
มันเหมือนการร่วมทุน ลุงจึงต้องเข้ามาดูแลตลอด ตั้งแต่ก้าวแรกที่ทำงาน
ตรงนี้ไม่ใช่แค่เอามาวัดโชว์เล่นๆ เดินกันทั้งแปลง
เครื่องมือวัด มันสู้สายตา จากประสบการณ์ไม่ได้
.
ความชื้นในดิน
อินทรีย์วัตถุ จากการประเมิน ด้วยการเดินดู
หยิบดินมีขยำดู สังเกตุหญ้า สังเกตุดิน ทั้งก่อนไถ หลังไถ
มันเหมือนกับการประเมินว่า..
ถ้าปลูกกล้วยลงไปจริงๆ เราต้องใช้ปุ๋ยคอกเท่าไร
ปูนขาว โดโลไมท์ เท่าไร
ต้นทุนในการบำรุงดิน ไร่ละเท่าไร จากสภาพดินที่เห็น
สภาพแวดล้อมทั่วไป สารพิษรอบๆ แปลง ที่จะเข้ามาในแปลงกล้วย
เพราะอาจจะต้องของ GAP ด้วย
.
นั่นยังรวมไปถึงสารอาหารต่างๆ ที่จะต้องใส่ลง
ซึ่งต้องอ้างอิงจากสภาพดินที่มองเห็นด้วนตา
.
ความเสี่ยงของโรค เชื้อรา ที่มาจากสภาพหรือปัจจัยภายนอก
เรียกว่า เดินดูกันขาลาก พอควร
.
เงินล้านไม่ได้มาเพราะโชคช่วย แต่ต้องมาจากการวางแผนงานบริหารที่ดี
.
แปลงจะถูกแบ่งเป็นส่วนๆ ทำที่ละส่วน ที่ละ 5-6 ไร่ ทยอยกันไป
บนพื้นที่ 80 ไร่ คงต้องดูกันยาวๆ....
ตอนนี้ก้สั่ง วัสดุทำปุ๋ยคอกมา 1 คัน 10ล้อ
เริ่มทำได้ทันทีหลังจากที่รองหน้าดินไถกลบไปก่อนแล้วส่วนถึง
...................................................
สภาพดิน
พีเฮช วัดได้ 6-7 ถือว่าผ่าน
ค่าความสมบูรณ์ สูงพอควร
ความชื้น ที่ระดับ 20 ซม มีสูง
อินทรีย์วัตถุ กำแล้วปล่อย ถือว่าผ่านในเกณฑ์ที่ดี
สภาพ ดินร่วน+ทราย+มีดินเหนียว บางส่วน
สิ่งแวดล้อมที่จะก่อให้เกิด โรค++ ไม่มีสวนกล้วยในบริเวณนั้น
การขนส่ง--ติดถนนลาดยาง รถวิ่งเข้าถีง
แหล่งน่ำ--มีลำราง ติดแปลงที่ปลูก
สภาพการระบายน้ำ...มีทางระบายน้ำ ลงสู ถนนใหญ่ ที่มีคลองอยู่
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น