ความชื้นของดินมีด้วยกัน 2 สถานะ
.
สถานะที่เป็นของเหลว จะเรียกว่า น้ำในดิน
สถานะที่เป็นก๊าซ จะเรียกว่า ไอน้ำในดิน
ประเทศไทยและอื่นๆที่อยู่ในเขตร้อนเขตร้อน ส่วนใหญ่น้ำในดินจะอยู่ในรูปของของเหลว
.
ดังนั้นคำว่าความชื้นของดินหรือน้ำในดิน จึงมีความหมายเดียวกัน คือ ส่วนที่อยู่ในสถานะที่เป็นของเหลว
.
ที่นี้ถ้าในส่วนของช่องว่างในดินมีน้ำอยู่เต็มไม่มีก๊าซอยู่เลยเรียกว่า ดินที่อิ่มตัวด้วยน้ำ
.
แต่ถ้าในช่องว่างของดินมีทั้งน้ำและก๊าซอยู่ด้วยเรียกว่า ดินที่ไม่อิ่มตัว
.
ให้เข้าใจว่าดินที่ใช้ในการทำการเกษตรส่วนใหญ่ คือดินที่ไม่อิ่มหมายถึงตัวดินมีทั้งน้ำและก๊าซอยู่ด้วยกัน
.
ความชื้นในดินมีความสำคัญ สำหรับสิ่งมีชีวิตในดิน ได้แก่ สัตว์ พืช หรือจุลินทรีย์
.
เพราะน้ำเป็นองค์ประกอบที่สำคัญของพืชและสัตว์ เพื่อใช้ในขบวนการเมทาบอลิซึมต่าง ๆ
.
- ขบวนการสังเคราะห์แสงของพืช
- จุลินทรีย์ในดินบางชนิด
.
พืชสามารถที่จะนำเอาธาตุอาหารไปใช้ได้ ธาตุอาหารเหล่านั้นจะต้องอยู่ในรูปของสารละลาย
.
น้ำเป็นตัวทำละลายที่ดีและมีปริมาณมาก หาได้ง่ายและสะดวก
.
น้ำเป็นตัวกลางที่ดีในการเคลื่อนย้ายไอออนจากบริเวณหนึ่งไปยังอีกบริเวณหนึ่ง
.
อีกทั้งยังลำเลียงธาตุอาหารที่อยู่ในรูปของไอออนจากดินเข้าสู่ภายในลำต้นของพืช และเข้าไปในจุลินทรีย์
.
นอกจากนี้น้ำยังมีความร้อนจำเพาะ และความร้อนแฝงที่สูง ทำให้เปลี่ยนอุณหภูมิได้ยาก ทำให้น้ำในดินมีอุณหภูมิไม่สูงหรือต่ำจนเกินไป ทำให้ดินมีสภาวะที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของพืช และกิจกรรมของจุลินทรีย์ในดิน
.
ความชื้นของดินที่เป็นประโยชน์ต่อพืชไว้ 3 ประเภท คือ
1. ความชื้นที่เป็นประโยชน์ หมายถึงความชื้นส่วนที่อยู่ภายใต้อำนาจดูดยึดของดิน ที่พืชดูดไปจากดิน ในอัตราส่วนที่ทัดเทียมกับอัตราการระเหยน้ำของพืช
.2. ความชื้นที่ไม่เป็นประโยชน์ หมายถึงความชื้นส่วนที่ดินดูดยึดไว้ด้วยพลังงานที่มากกว่าที่จะให้พืชดูดไปใช้ในอัตราที่ทัดเทียมกับอัตราการระเหยน้ำของพืชได้
.
3. ความชื้นเกินจำเป็น หมายถึงความชื้นส่วนที่เกินอำนาจดูดยึดตามปกติของดิน ซึ่งโดยปกติขังอยู่ในที่ว่างขนาดใหญ่ที่เป็นที่อยู่ของอากาศ และเมื่อมีโอกาสจะเคลื่อนพ้นบริเวณที่รากพืชลึกลงไปในหน้าตัดดิน โดยอิทธิพลแรงดึงดูดของโลก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น