กล้วยคาเวนดิชไม่ได้มีเพียงสายพันธุ์เดียว แต่มีการแยกย่อยไปอีกหลายสายพันธุ์ย่อย (Subgroup) ซึ่งแต่ละสายพันธุ์จะมีลักษณะเฉพาะตัวที่แตกต่างกันเล็กน้อย เช่น รสชาติ ขนาดผล ความต้านทานโรค
ยกตัวอย่างสายพันธุ์ย่อยของกล้วยคาเวนดิชที่พบได้บ่อยๆ ได้แก่:
- Grand Nain (Giant Cavendish): เป็นสายพันธุ์ย่อยที่พบได้บ่อยที่สุด ผลมีขนาดใหญ่ ปลายทู่ รสชาติหวาน
- Dwarf Cavendish: ต้นเตี้ยกว่า Grand Nain ผลมีขนาดเล็กกว่า เหมาะสำหรับปลูกในพื้นที่จำกัด
- Williams: ลักษณะคล้าย Grand Nain แต่ผลยาวกว่าเล็กน้อย
- Valery: ต้านทานโรค Panama disease ได้ดีกว่าสายพันธุ์ย่อยอื่นๆ
- GCTCV 218: เป็นสายพันธุ์ที่พัฒนาขึ้นในประเทศไทย ทนทานต่อโรคตายพราย
นอกจากสายพันธุ์ย่อยที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว ยังมีการพัฒนาสายพันธุ์ย่อยของกล้วยคาเวนดิชอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ได้สายพันธุ์ที่มีคุณสมบัติที่ดีขึ้น เช่น ให้ผลผลิตสูง ทนทานต่อโรคและแมลงศัตรูพืช
อย่างไรก็ตาม ในท้องตลาดทั่วไป อาจไม่ได้มีการแยกขายกล้วยคาเวนดิชเป็นสายพันธุ์ย่อยอย่างชัดเจน และส่วนใหญ่แล้ว ผู้บริโภคทั่วไปอาจไม่สามารถแยกความแตกต่างของแต่ละสายพันธุ์ย่อยได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น