เกษตร....
นี่คือเหตุผลที่เรา คนสวน เกษตรกรไปไม่ถึงไหน
เพราะเราไม่ต่อยอดความคิด ในสิ่งที่เราคิดค้นได้ เราไม่รู้จะ จด จะรักษาความคิดของเราไห้เป็นของเราตลอดไปได้ยังไง กับสิ่งที่เราคิดค้นได้
.
เราคนทำเกษตร ิเรา คิดค้นทุกวัน เราอยู่ภาดสนาม มาเป็น100เป็น1000ปี
เครื่องมือ วิธีการต่างๆ เราเกษตรกร เริ่มต้นคิดกันมาเองทั้งนั้น
แต่..เราจบตรงที่ทำให้กันเอง เราไปต่อไม่ได้ หรือไม่คิดจะไปต่อ กับสิ่งที่เราคิดได้
ตรงนี้ ถามใจเราดูก่อนว่า เพราะอะไร..หาคำตอบให้เจอ เพราะนั่นคือสิ่งที่จะพาเราสู่ความร่ำรวย
.....
นักวิชาการ
คือกลุ่มคนที่ชอบขโมยความคิดของคนอื่นไปเป็นผลงานของตัวเองมากที่สุด
คนกลุ่มนี้ คิดเองไม่ค่อยเป็น แต่เพราะเกิดมาได้ร่ำเรียน มีที่ทำงาน มีเครื่องมือที่จะต่อยอดความคิดชาวบ้าน
.
พอเห็นชาวบ้านคิดได้ อันไหนดี ก็เอาไปเสนองาน ของบทำงาน ทำลองไปเรื่อยๆ 10-20 งาน สำเร็จสักงาน ก็เอามาตีปิ๊บว่า ผลงานของข้า..ข้าทำสำเร็จ 1000โครงการที่ทำได้ แล้วเผยแพร่ออกไป ไม่รู้หรอก ไอ้ที่ทำๆกันไป สร้างความวอดวายกับภาษี ประชาชนไปเท่าไร เสร็จแล้ว ก็พับเก็บ กองลงถังขยะไป ได้ชื่อแล้ว จบตรงนั้น ไม่มีการต่อยอด
.....
นายทุน
คัดเลือกจาก พันล่านโครงการ หาไอ้ที่มันจะทำกำไรได้ ไปสัก 5-10 โครงการ
ไปซื้อมา เพื่อเอาสิทธื เป็นของตัวเอง
ไปจดเรียบร้อยละ ที่นี้ ผูกขาดทันที ใครทำตามกุฟ้องหมด เพราะจำจะสร้าง ขายคนเดียว
ก็ได้สิทธิไปแล้วนี่ โขกราคา อย่างไรก็ได้ ยิ่งพวกยา ด้วย ..มันถึงได้แพงวายวอด ขนาดนี้
.................................
วันนี้หลายๆอย่างที่เราคิดขึ้นมาได้ บางครั้งก็ต้องเก็บไว้จนกว่าจะพร้อม
หน่าที่ของเราคือ เก็บสิ่งที่เราคิดเอาไว้ ทำจนเห็นผล ทดลองจนได้ดี
การเข้าไปจดสิทธิบัตร สำหรับเกษตรยุคใหม่ ไม่ใช่เรื่องยาก อีกต่อไป
การจดเครื่องหมายทางการค้า ไม่ยาก อย่างที่คิด
สิ่งเรานี้ ความคิดดีๆเหล่านี้ อย่าให้คนอื่นมาฉกไป ขโมยไปง่ายๆ
ลุงอยากเห็นการก้าวไปอีก 2 ก้าว 3 ก้าว สำหรับคนรุ่นใหม่
.
คิดนวตกรรม ใหม่ๆ การแปรรูปสินค้าเกษตรในรูปแบบใหม่ ให้เหมาะสมกับสภาพการณ์ในปัจจุบัน เหมาะแก่การขนส่ง ฉีกกินได้ง่าย ลวกน้ำกินได้เลย เก็บรักษาได้นานสัก 3 เดือน
.
อย่างเช่น จะมีใครคิดไหม
-บัวลอยที่ฉีกแล้วใส่น้ำร้อนกินได้เลย ทำแป้งให้สุก อบแห้งที่ความชื้นเท่าไร ว่าไป
-กะทิ ความหวาน ปรุงสุก กับแป้ง ทำให้แห้งที่ความร้อนสูง แล้ว บดละเอียด ที่ความชื้นไม่เกินเท่าไร
-บรรจุใส่ซองฟรอย ดิตฉลาก
แบบนี้ คือตัวอบ่วงการต่อยอด ที่มันจะโกอินเตอร์
สินค้าบ้านเรานี่มีอีกนับล้านชนิด รอนักคิด มาต่อยอด
.
ปล้าร้าปรุงสำเร็จ บดเป็นผง ถึงมีแล้ว แต่ก็มีอีกได้ ถ้าเจอนักการตลาด ลงมาทำจริงๆ
.
ที่มันไม่ดังเท่าไร มันยังเป็นโอท๊อปอยู่ แล้วรสชาด มันยังไม่โดนลิ้นคนไทยมากกว่า
.
ถ้าวันนึง มีใครทำได้แซปถึงใจ ลูกค้าในเมืองทั้งหมดนั่นละ ตามหอพัก ตามคอนโด คนที่ไม่สามารถปรุงอาหารได้ มีกี่สิบล้านคน
.
แค่ฉีกซอง ใส่น้ำร้อนกินได้ ..มันซิแซปหลาย
.
วันนี้ยังมีทางเดิน สำหรับเกษตรนักคิด อีกตั้งเยอะ ค้นหาสิ่งที่เป็นตัวเราให้เจอ เท่านั้นละ
................................
เครื่องปิดฝากระป๋อง แบบมือกดเอง สองหมื่นต้นๆ
.
นี่คือเหตุผลที่เรา คนสวน เกษตรกรไปไม่ถึงไหน
เพราะเราไม่ต่อยอดความคิด ในสิ่งที่เราคิดค้นได้ เราไม่รู้จะ จด จะรักษาความคิดของเราไห้เป็นของเราตลอดไปได้ยังไง กับสิ่งที่เราคิดค้นได้
.
เราคนทำเกษตร ิเรา คิดค้นทุกวัน เราอยู่ภาดสนาม มาเป็น100เป็น1000ปี
เครื่องมือ วิธีการต่างๆ เราเกษตรกร เริ่มต้นคิดกันมาเองทั้งนั้น
แต่..เราจบตรงที่ทำให้กันเอง เราไปต่อไม่ได้ หรือไม่คิดจะไปต่อ กับสิ่งที่เราคิดได้
ตรงนี้ ถามใจเราดูก่อนว่า เพราะอะไร..หาคำตอบให้เจอ เพราะนั่นคือสิ่งที่จะพาเราสู่ความร่ำรวย
.....
นักวิชาการ
คือกลุ่มคนที่ชอบขโมยความคิดของคนอื่นไปเป็นผลงานของตัวเองมากที่สุด
คนกลุ่มนี้ คิดเองไม่ค่อยเป็น แต่เพราะเกิดมาได้ร่ำเรียน มีที่ทำงาน มีเครื่องมือที่จะต่อยอดความคิดชาวบ้าน
.
พอเห็นชาวบ้านคิดได้ อันไหนดี ก็เอาไปเสนองาน ของบทำงาน ทำลองไปเรื่อยๆ 10-20 งาน สำเร็จสักงาน ก็เอามาตีปิ๊บว่า ผลงานของข้า..ข้าทำสำเร็จ 1000โครงการที่ทำได้ แล้วเผยแพร่ออกไป ไม่รู้หรอก ไอ้ที่ทำๆกันไป สร้างความวอดวายกับภาษี ประชาชนไปเท่าไร เสร็จแล้ว ก็พับเก็บ กองลงถังขยะไป ได้ชื่อแล้ว จบตรงนั้น ไม่มีการต่อยอด
.....
นายทุน
คัดเลือกจาก พันล่านโครงการ หาไอ้ที่มันจะทำกำไรได้ ไปสัก 5-10 โครงการ
ไปซื้อมา เพื่อเอาสิทธื เป็นของตัวเอง
ไปจดเรียบร้อยละ ที่นี้ ผูกขาดทันที ใครทำตามกุฟ้องหมด เพราะจำจะสร้าง ขายคนเดียว
ก็ได้สิทธิไปแล้วนี่ โขกราคา อย่างไรก็ได้ ยิ่งพวกยา ด้วย ..มันถึงได้แพงวายวอด ขนาดนี้
.................................
วันนี้หลายๆอย่างที่เราคิดขึ้นมาได้ บางครั้งก็ต้องเก็บไว้จนกว่าจะพร้อม
หน่าที่ของเราคือ เก็บสิ่งที่เราคิดเอาไว้ ทำจนเห็นผล ทดลองจนได้ดี
การเข้าไปจดสิทธิบัตร สำหรับเกษตรยุคใหม่ ไม่ใช่เรื่องยาก อีกต่อไป
การจดเครื่องหมายทางการค้า ไม่ยาก อย่างที่คิด
สิ่งเรานี้ ความคิดดีๆเหล่านี้ อย่าให้คนอื่นมาฉกไป ขโมยไปง่ายๆ
ลุงอยากเห็นการก้าวไปอีก 2 ก้าว 3 ก้าว สำหรับคนรุ่นใหม่
.
คิดนวตกรรม ใหม่ๆ การแปรรูปสินค้าเกษตรในรูปแบบใหม่ ให้เหมาะสมกับสภาพการณ์ในปัจจุบัน เหมาะแก่การขนส่ง ฉีกกินได้ง่าย ลวกน้ำกินได้เลย เก็บรักษาได้นานสัก 3 เดือน
.
อย่างเช่น จะมีใครคิดไหม
-บัวลอยที่ฉีกแล้วใส่น้ำร้อนกินได้เลย ทำแป้งให้สุก อบแห้งที่ความชื้นเท่าไร ว่าไป
-กะทิ ความหวาน ปรุงสุก กับแป้ง ทำให้แห้งที่ความร้อนสูง แล้ว บดละเอียด ที่ความชื้นไม่เกินเท่าไร
-บรรจุใส่ซองฟรอย ดิตฉลาก
แบบนี้ คือตัวอบ่วงการต่อยอด ที่มันจะโกอินเตอร์
สินค้าบ้านเรานี่มีอีกนับล้านชนิด รอนักคิด มาต่อยอด
.
ปล้าร้าปรุงสำเร็จ บดเป็นผง ถึงมีแล้ว แต่ก็มีอีกได้ ถ้าเจอนักการตลาด ลงมาทำจริงๆ
.
ที่มันไม่ดังเท่าไร มันยังเป็นโอท๊อปอยู่ แล้วรสชาด มันยังไม่โดนลิ้นคนไทยมากกว่า
.
ถ้าวันนึง มีใครทำได้แซปถึงใจ ลูกค้าในเมืองทั้งหมดนั่นละ ตามหอพัก ตามคอนโด คนที่ไม่สามารถปรุงอาหารได้ มีกี่สิบล้านคน
.
แค่ฉีกซอง ใส่น้ำร้อนกินได้ ..มันซิแซปหลาย
.
วันนี้ยังมีทางเดิน สำหรับเกษตรนักคิด อีกตั้งเยอะ ค้นหาสิ่งที่เป็นตัวเราให้เจอ เท่านั้นละ
................................
เครื่องปิดฝากระป๋อง แบบมือกดเอง สองหมื่นต้นๆ
.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น