ความคิดของลุงเองล้วนๆ
------------------
เรื่องกลายพันธ์
เพาะเนื้อเยื่อ กลายพันธ์ได้ในพริบตา ไม่ว่าจะมาจากพันธ์แท้ก็ตาม แช่สารเคมีกันมารุ่นต่อรุ่น นานนับ 10 ปี
-เพราะ เยื่อเจริญ ผ่านการแช่ การฟอก ตั้งแต่ ลงมือทำ การเพาะเนื้อเยื่อ จึงมีโอกาสกลายพันธ์ แบบ 100% เพราะต้องผ่าน เคมี ความร้อน ไหนจะเลี้ยงในขวด ระยะเวลานาน แก็ส อาหาร ที่สัมผัสโดยตรง ยังไงก็มีผล กับ องค์ประกอบของยินส์และโคโมโซม ถ้ามันไช่นะ ไม่ได้เรียน เกษตร
-ขุดหน่อ ระยะเวละตั้งเป็นสิบๆ ปี กว่าจะกลายพันธ์ อาจจะมีโดนยาฆ่าหญ้า บ้าง ก็แค่รากๆ บนดิน แต่ที่สวนไม่ได้ใช้ เลยตัดประเด็นนี้ไปได้
------------------
คงต้องมามองกันว่า นักวิชาการ ทำงานให้ใคร....ไม่มีนักวิชาการคนไหน บอกสิ่งที่ องกรณ์ ของตัวเองทำ ไม่ดี
------------------
วันนี้ต้องกลับมาคิดว่า การเพาะเนื่อเยื่อ ดีหรือไม่ดี
ดี สำหรับคนขาย พันธ์ ดีอย่างเดียว ดีไปทุกอย่าง
ไม่ดี สำหรับคนปลูก มันไม่ได้ผล อย่างที่คนขายบอก
ดี เพราะทำออกมาได้เยอะ ขายได้เยอะ ปลอดเชื้อ ปลอดโรค
ไม่ดี คนปลูก มันปลอดโรค หรือ อมโรค อยู่ในขวด ออกจากขวด มันจึงอ่อนแอ และติดโรคได้ง่าย
-----------------
ทำไม่ กล้วยพื้นบ้าน ทุกำันณ์ ที่ขุดขยายหน่อ ไม่ค่อยพบปัญหาแบบนี้
มีมานาน นนนนนแสนนานล้านนาน.....มันไม่กลายพันธ์ อย่างปัจจุบันทันด่วน จนสังเกตุเห็น
-----------------
การเพาะเนื้อเยื่อ ไม่สามารถ คัดต้น ดี และ เลว ออกจากกันได้ จึงไม่มีการเก็บยีนส์เด่นๆไว้ ยิ่งในทางการค้า อย่าหวัง
การขยาย ด้วยหน่อ ถือว่าคนโบราณ คนปลูก มีการคัดพันธ์ หรือได้ ต้นที่มียีนส์ หรือ โคโมโซม ที่ดีไว้แล้ว
สังเกตุว่า ถ้าเราจะเอาต้นไม้ไปขยายพันธ์ เราเองก็จะเลือกต้นที่ ดกๆ ใหญ่ๆ ไปทำพันธ์พันธ์ ที่ขยายตามธรรมชาติ มันจึงดีวันดีคืน
----------------
หรือเรากำลังถูก นักวิชาการหลอก อยู่
ทุกวันนี้ ลุงกลับไปใช้ การขยายพันธ์กล้วยในสวน ด้วยหน่อ เหมือนเดิม ค่อยๆ ทะยอย ขุดต้นที่ดี ไปปลูก เหมือนคนโบราณ ทำมานั่นละ
----------------
สวนเพื่อน พึ่งโละ ปากช่อง 50 ไป 20 ไร่ ปลูกมาหลายปีละ
ลุงเลยไปเดินๆ เลือกหน่อมาปลูก สัก 100 ต้น เพื่อเปรียบเทียบกับเนื่อเยื่อที่สวน
----------------
แต่ที่ขยายสวนใหม่ ไม่มีละ ตัดออกเลย ปากช่อง 50 ลาขาด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น