วันอังคารที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

ชามะละกอ-ล้างลำไส้

สูตรชามะละกอ
- มะละกอดิบไม่อ่อนเกินไป1 ลูก
- ชาเขียว หรือชาจีน หรือชาใบหม่อน อย่างใดอย่างหนึ่ง
- เพิ่มดอกเก๊กฮวย หรือใบเตย หรือรากเตยลงไปด้วยก็ได้ เพราะดอกเก๊กฮวย ใบเตยจะบำรุงหัวใจ รากเตยก็ช่วยฟื้นฟูตับอ่อนให้มีกำลัง ถ้าไม่มีก็ไม่ต้องใส่
.
วิธีทำ
1. ปอกเปลือกมะละกอล้างน้ำให้สะอาด แล้วหั่นแบบชิ้นฟัก ไม่ถึงครึ่งลูก
2. นำมะละกอที่หั่นใส่หม้อ แล้วเติมน้ำ 3 - 4 ลิตร ตั้งไฟ จะเติมดอกเก๊กฮวย หรือใบเตย หรือรากเตย ก็ใส่ไประหว่างนี้
3. เมื่อน้ำเดือดสักพักหนึ่งยกหม้อลง ตักมะละกอ และดอกเก๊กฮวยออก ให้เหลือแต่น้ำ
4. นำน้ำนั้นไปชงชา ใส่ใบชาประมาณครึ่งกำมือ การแช่ชานันไม่ควรเกิน 5 นาที
5. กรองเอากากชาทิ้งไป ทิ้งไว้ให้เย็นดื่มได้ทันที หรือบรรจุขวดเก็บไว้ในตู้เย็นได้ประมาณ 3 วัน
.
สารของมะละกอจะเกิดการถักทอกับสารของใบชา ทำให้ช่วยย่อยไขมันและล้างไขมันออกจากผนังลำไส้ ควรดื่มเพื่อล้างเป็นประจำ ดื่มแทนน้ำอัดลมได้
.
ถ้าไม่ล้างลำไส้ ก็เปรียบเหมือนกินข้าวไม่ล้างจาน แล้วใช้จานใบเก่าที่ไม่ล้าง เอามาใส่ข้าวกินใหม่
.
เมื่อล้างลำไส้แล้ว ก็ควรกินอาหารที่มีประโยชน์ เพื่อไปบำรุงร่างกายด้วย ถ้าหลีกเลี่ยงอาหารผัดน้ำมันไม่ค่อยได้ ก็กินเท่าที่จำเป็น คือ กินให้น้อยลง แล้วกินชามะละกอไปล้างลำไส้ทุกวันเมื่อมีเวลาว่าง ที่มา:บอร์ดอกาลิโก

ขอบคุณข้อมูลจาก นานาสาระเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี


วันเสาร์ที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

ขายต้นโด่ไม่รู้ล้ม-สมุนไพร



ขายต้นโด่ไม่รู้ล้ม

มีสวนเองครับปลอดสารพิษทุกชนิด แม้แต่บุหรี่ยังห้ามสูบในสวน ไม่ได้รับใครมาขาย

ต้นใหญ่ 250บาท รวมส่งพัสดุแล้ว
ต้นเลก 200บาท รวมส่งพัสดุแล้ว

ส่งโดย เอากระถางออก ปาดดินออก เล็กน้อย แล้วเอาถุงหุ้มดินราก พันด้วย สก๊อดเทบ
ใบ ห่อด้วยหนังสือพิมพ์ เอารัดด้วยซี่ไม่ไผ่ กึนโครง ใบจะไม่ช้ำครับ




สมุนไพรโด่ไม่รู้ล้ม ยังมีชื่อท้องถิ่นอื่นๆ อีกเช่น ขี้ไฟนกคุ่ม (เลย), คิงไฟนกคุ่ม (ชัยภูมิ), หนาดมีแคลน (สุราษฎร์ธานี), ตะชีโกวะ ติ๊ซิเควาะด๊ะ (กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน), โน๊ะกะชอย่อตะ กาว่ะ เนาะดากวอะ (กะเหรี่ยงเชียงใหม่), เคยโป้ หนาดผา หญ้าปราบ หญ้าไก่นกคุ่ม หญ้าไฟนกคุ้ม หญ้าสามสิบสองหาบ (ภาคเหนือ), ก้อมทะ เกดสะดุด ยาอัดลม (ลั้วะ), จ่อเก๋ (ม้ง) เป็นต้น

ลักษณะของโด่ไม่รู้ล้มต้นโด่ไม่รู้ล้ม เป็นพืชล้มลุก มีลำต้นสั้นและกลม ชี้ตรง มีความสูงราว 10-30 เซนติเมตรอยู่ในระดับพื้นผิวดิน ตามผิวลำต้นและใบจะมีขนละเอียดสีขาว สาก ห่าง ทอดขนานกับผิวใบ พืชชนิดนี้เมื่อถูกเหยียบหรือโดนทับก็จะดีดตัวขึ้นมาใหม่ได้เหมือนปกติ (สมชื่อเลย) ขยายพันธุ์ด้วยวิธีการใช้เมล็ด

ใบโด่ไม่รู้ล้ม มีใบเป็นใบเดี่ยวอยู่บริเวณเหนือเหง้า ติดกันเป็นวงกลมเรียงสลับชิดกันอยู่เป็นกระจุกคล้ายกุหลาบซ้อนที่โคนต้น ลักษณะของใบเป็นรูปหอกหัวกลับ แผ่นใบกว้างประมาณ 3-5 เซนติเมตรและยาวประมาณ 8-20 เซนติเมตร ขอบใบหยักหรือเป็นจักคล้ายฟันเลื่อยห่างๆ มีเส้นแขนงของใบประมาณ 12-15 คู่ ส่วนของใบที่ค่อนไปทางปลายจะผายกว้าง แล้วสอบเป็นแหลมทู่ๆ ส่วนโคนใบจะสอบแคบจนถึงก้านใบ มีเนื้อใบหนาสาก ผิวใบจะมีขนสากเล็กๆ ขนตรงห่างมีสีขาว และมีขนต่อมห่างอยู่ทั้งสองด้าน โดยท้องใบจะมีขนมากกว่าหลังใบ แผ่นใบมักแผ่ราบไปกับพื้นดิน ก้านใบยาวประมาณ 0.5-2 เซนติเมตร หรือไม่มีก้านใบ

ดอกโด่ไม่รู้ล้ม ออกดอกเป็นช่อแทงออกมาจากลำต้น ลักษณะของช่อดอกเป็นรูปขอบขนาน มีดอกย่อยขนาดเล็ก 4 ดอก ยาวประมาณ 9-10 มิลลิเมตร มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 2-3 มิลลิเมตร ดอกเป็นรูปหลอดสีม่วง หลอดกลีบดอกยาวประมาณ 3-3.5 มิลลิเมตร เกลี้ยง ส่วนปลายกลีบดอกยาวประมาณ 1.5-2 มิลลิเมตร ไม่มีขน ดอกมีเกสรตัวผู้สีเหลือง มีอับเรณูยาวประมาณ 2.2-2.3 เซนติเมตร ปลายแหลม ฐานเป็นติ่งแหลม ส่วนก้านชูอับเรณูยาวประมาณ 1.5-1.7 เซนติเมตร และเกสรตัวเมียมีก้านเกสรยาวประมาณ 7-8 มิลลิเมตร ยอดเกสรยาว 0.5-0.6 มิลลิเมตร มีขนอยู่ปลายยอดและสิ้นสุดที่รอยแยก แต่ละช่อย่อยจะอยู่รวมกันเป็นช่อกระจุกกลมที่ปลายก้านดอก ที่โคนกระจุกดอกจะมีใบประดับแข็งเป็นรูปสามเหลี่ยมแนบอยู่ด้วย 3 ใบ ยาวประมาณ 1-2 เซนติเมตรและกว้างประมาณ 0.5-1.5 เซนติเมตร ขอบใบเรียบปลายเรียวแหลม ที่ผิวใบทั้งสองด้านมีขนตรงสีขาว ออกที่ปลายยอดแบบช่อแยกแขนง ก้านช่อดอกมีความยาวได้ถึง 8 เซนติเมตรและมีขนสาดๆ อยู่ทั่วไป ส่วนฐานรองดอกจะแบนและเกลี้ยง มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 0.5-0.7 มิลลิเมตร วงใบประดับเป็นรูปขอบขนาน มี 2 ชั้น สูงราว 7-10 มิลลิเมตร มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 2-3 มิลลิเมตร ใบประดับคล้ายรูปหอก ผิวด้านนอกมีขนตรง ส่วนขอบใบมีขนครุย ชั้นนอกเป็นรูปใบหอกยาวประมาณ 4-6 มิลลิเมตร และกว้างประมาณ 0.5-1.5 มิลลิเมตร ปลายแหลม ส่วนชั้นที่ 2 เป็นรูปขอบขนานกว้างประมาณ 1-2 มิลลิเมตรและยาวประมาณ 8-10 มิลลิเมตร ปลายแหลม สีขาวเป็นเส้นตรงแข็งมี 5 เส้น เรียง 1 ชั้ย ยาวประมาณ 5-6 มิลลิเมตร

ผลโด่ไม่รู้ล้ม ผลเป็นผลแห้งและไม่แตก ลักษณะของผลเล็กและเรียว เป็นรูปกรวยแคบ ผิวด้านนอกผลมีขนหนาแน่น ยาวประมาณ 2.5-3 มิลลิเมตร และกว้างประมาณ 0.4-0.5 มิลลิเมตร และผลไม่มีสัน

สรรพคุณโด่ไม่รู้ล้ม สรรพคุณใช้เป็นยาบำรุงร่างกาย บำรุงกำลัง ด้วยการใช้รากต้มเป็นน้ำดื่ม หรือใช้ดองเหล้าดื่มผสมเข้ากับสมุนไพรกำลังเสือโคร่งและม้ากระทืบโรง หรือจะใช้ใบต้มกับน้ำดื่มก็ได้ และนอกจากนี้ยังใช้ทั้งต้นของโด่ไม่รู้ล้ม นำมาตากแห้งแล้วหั่นเป็นฝอยใช้ผสมเข้ายาร่วมกับสมุนไพรอื่นๆ คือ ต้นนางพญาเสือโคร่ง ม้ากระทืบโรง ลำต้นฮ่อสะพายควาย จะค่าน ตานเหลือง มะตันขอ เปลือกลำ หัวยาข้าวเย็น แก่นฝาง ไม้มะดูก และข้าวหลามดง นำมาต้มเป็นน้ำดื่มเป็นยาบำรุงก็ได้เหมือนกัน (ราก,ใบ,ทั้งต้น) สรรพคุณช่วยแก้ไข้ตัวร้อน แก้ไข้หวัด มีอาการไอเรื้อรัง (ราก)

advertisements


ข้อมูลทางเภสัชวิทยาของสมุนไพรโด่ไม่รู้ล้ม : โด่ไม่รู้ล้มมีฤทธิ์ช่วยยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย ยับยั้งเชื้อไวรัส ช่วยลดไข้ ลดอาการอักเสบ ช่วยต้านความเป็นต่อตับ ช่วยลดความดันโลหิต ช่วยยับยั้งการเคลื่อนไหวของลำไส้เล็ก และช่วยกระตุ้นมดลูก

ข้อห้าม ! : ไม่ควรใช้กับหญิงตั้งครรภ์ รวมไปถึงผู้ที่มีอาการกลัวหนาว แขนขาเย็น ชอบดื่มของร้อน ไม่กระหายน้ำ มีอาการปวดท้อง ท้องร่วง และปัสสาวะปริมาณมาก และมีชั้นฝ้าบนลิ้นขาวและหนา

ประโยชน์ของโด่ไม่รู้ล้ม

แหล่งอ้างอิง : ฐานข้อมูลสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทลัยอุบลราชธานี, เว็บไซต์สำนักงานโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี, สุภาวดี ภูมิมาลี นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรปฏิบัติการ ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตร จังหวัดนครราชสีมา (พืชสวน), ชื่อพรรณไม้แห่งประเทศไทย (เต็ม สมิตินันทน์), สถาบันวิจัยและพัฒนาที่สูง (องค์กรมหาชน), สารานุกรมสมุนไพร เล่ม 1 สมุนไพรสวนสิรีรุกขชาติ 104

ภาพประกอบ : www.phargarden.com (by Sudarat Homhual), เว็บไซต์ไทยเกษตรศาสตร์,  เว็บไซต์อุทยานธรรมชาติวิทยาสิรีรุกขชาติ

เรียบเรียงข้อมูลโดย ฟรินน์.คอม

advertisements


วันพุธที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

เพาะเนื้อเยื่อ-อาหารและเทคนิค

การทำอาหารเนื้อเยื่อ

 ใช้น้ำสะอาด 1 ลิตร
 วุ้นทำอาหาร 8 กรัม
 ถ่านไม้บด 0.2 กรัม
มันฝรั่งบด 50 กรัม
กล้วยหอมบด 50 กรัม
ปุ๋ยสูตรที่มีไนโตรเจนสูง (N) 2 กรัม

ใส่รวมในหม้อต้ม คนให้เข้ากันกระทั่งน้ำเดือด
 เทอาหารเนื้อเยื่อใส่ขวด สูงประมาณ 1 ซม.
หยดน้ำยาซักผ้าขาวที่มีสารโซเดียมไฮโปคลอไรด์ตามทันทีประมาณ 5 หยด/ขวด...

ปิดฝาอย่างรวดเร็ว ความร้อนกับน้ำยาซักผ้าขาวจะฆ่าเชื้อได้ดี

วิธีนี้เลยไม่ต้องใช้หม้อนึ่งความดันให้สิ้นเปลือง

สูตรนี้ได้อาหารเลี้ยงเนื้อเยื่อ 40-50 ขวด เมื่ออาหารเย็นจับตัวเป็นก้อน เอาไปเลี้ยงเนื้อเยื่อได้เลย ขั้นตอนนี้โดยทั่วไปจะทำกันใน “ตู้ปลอดเชื้อ” ราคาแพงๆ แต่ มนฑิณี ใช้ “ตู้เลี้ยงปลา” ล้างให้สะอาด ภายในมีตะเกียงแอลกอฮอล์...ก่อนลงมือเอาเนื้อเยื่อมาเพาะเลี้ยง ต้องใช้เอทิลแอลกอฮอล์ 70% เช็ดฆ่าเชื้อตามฝ่ามือ ขวดอาหารเนื้อเยื่อ รวมทั้งปากคีบต้องเผาไฟฆ่าเชื้อ 2-3 ครั้ง


วันอังคารที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

การเพาะมะเขือพวง-แบบลุงแจ่ม









การเพาะอาจใช้เวลา 7-15 วันหรือกว่านั้น ขึ้นอยู่กับความชื้น แสงแดด
ใจเย็นๆครับ มันเป็นทางศาสตร์และศิลป์

มะเขือพวงนี่ ขึ้นชื่อว่าเพาะยากจริงๆ



เตรียมดิน
เอามาทุบๆๆ ให้แหลก หาหญ้าเก่าๆ หน้าดิน
เอามาเคล้า อาหาร
สปีดทอนาโด 55555
ไม่งั้นไม่โตแน่ๆ คริๆ







กะละมังแบบนี้ ไม่มีก็หาอย่างอื่นแทนๆไป





เอาดินใส่ กะบะมัง สูงขึ้นมาสักสามนิ้ว
เกลี่ย เสมอๆหน่อย




เอาเม็ดมะเขือพวง โรย ๆ กระจายให้ทั้่วๆ
หรืออาจเ าซ่อมมะเขี่ยๆ ช่วยอีกที




เอาดินป่นๆหน่อยโรยๆทับ หนาสัก หนึ่งเซ็น เดี๋ยวรดน้ำ ยุบเอง







ใส่น้ำให้ท่วม
การใส่น้ำท่วมคือการแช่นั่นเอง
หลังจากนั้น เอาตั้งแดดรำไร แต่ถ้าแดดจัด ควรมีฟางคลุมสักหน่อย เหมือการอบนะครับ
เป็นการเร่งการงอก แต่ลุงไม่มีอะไรเลย 5555


วันจันทร์ที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

การล้างหวีกล้วย

ล้างหวีกล้วยในน้ำสะอาดผสมน้ำยาครอรอกซ์ 5.5 เปอร์เซ็นต์
ปริมาณ 25 ซีซี ในน้ำ 50 ลิตร

 จากนั้นล้างอีกครั้งในน้ำผสมแชมพูอ่อน
ปริมาตร 1 ช้อนชา ต่อน้ำ 50 ลิตร

การล้างผลเป็นการช่วยลดอุณหภูมิของผลกล้วย
และเป็นการป้องกันน้ำยางที่ไหลจากก้านเครือเปื้อนผลกล้วยครับ

ฟองน้ำชุบสารเคมีป้องกันกำจัดเชื้อราอย่างไทอะเบนดาโซล (Thiabendazole) ชุบที่ขั้วหวีเพื่อป้องกันการเน่า


การใช้ฟองน้ำชุบขั้วนอกจากจะส่งผลดีในแง่ดังกล่าวแล้ว ยังส่งผลให้การตรวจเคมีตกค้างเจอปัญหาน้อยลงเพราะใช้ในปริมาณไม่มากและใช้เฉพาะจุดที่เป็นต้นเหตุให้เกิดการเน่าและร่วงของผลตามมา หากใช้วิธีชุบทั้งหวีหรือพ่นทั้งหวี โอกาสตรวจพบสารเคมีตกค้างจะมีมากขึ้น

จริงๆแล้วการหลีกเลี่ยงไม่ใช้สารเคมีเป็นเรื่องดีที่สุด แต่หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ควรใช้ด้วยความระมัดระวังให้มาก มีอีกหนึ่งแนวทางที่น่าจะลองนำมาทดสอบเพื่อใช้ทดแทนกันได้คือการชุบด้วยสารสกัดจากธรรมชาติอย่างใบฝรั่ง ซึ่งมีการนำมาใช้เป็นการค้าในบางประเทศ หากผู้อ่านจะนำข้อมูลดังกล่าวมาทดสอบ ทำซ้ำ หรือ ต่อยอด ในแง่ไหนก็แล้วแต่ จะเป็นเรื่องที่ดีมากเลยค่ะ




วันเสาร์ที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

ขายมพันธ์มะเขือพวงมีหนาม ดั้งเดิม

ขายเมล็ดพันธ์มะเขือพวง 
มีหนามพันธ์ดั้งเดิม





ขอที่ครั้งละ 100 บาทครับ ส่งฟรีจดหมายธรรมดา
ซอง+แสตมป์ 20 ค่ารถไปส่ง 10 โล ครับ


เป็นต้นที่ปลูกที่สวนครับ เก็บแบบแก่จัดร่วงเลย 
ถ้าจะปลูกแบบเป็นสวน ร้อยเดียวพอครับ ผมให้เยอะ กว่าซื้อเป็นซองๆ ที่ขายๆกัน

ราคาดีมากครับ ขี้กากที่สุด 3-40บาท พักเดียวไป150-180บาท/โล

ไร้หน่ามราคาไม่ถึงนี้นะครับ เพราะมันกินไม่อร่อย
ไร้หนาทเวลาปลูก ต้นจะหักง่าย โตช้า พุ่มไม่โค  อันนี้ อย่างยักษ์

เก็บระยะยาวได้ครับ ตัดแต่งบ่อยๆ
เพาะ ใช้เวลานิดนึ่งครับ ต้องการน้ำเยอะ ในการงอก





นางบาเล่ สภานุชาต(เมียผมเอง)โทร 0918712395(มีไลน์)
ไทยพานิชย์ สาขาตลาดไท
เลขบัญชี 4052968127




เห็ดกระถินพิมานรักษามะเร็ง

พ่นควันไล่ผึ้ง

รักษาเก๊าท์

โกฏจุฬาลัมพาแห้ง