วันพฤหัสบดีที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2568

แพะหงี่" (Horny Goat Weed / Yin Yang Huo)

 

  แพะหงี่" (Horny Goat Weed / Yin Yang Huo)


สั่งซื้อใบแพะหงี่ ตากแห้งจากเราได้โดยตรง

ขนาดทดลอง  30กรัม  450 บาม รวมส่ง โอนเงิน
ขนาด           50 กรัม   750  รวมส่ง โอนเงิน
ขนาด          100 กรัม   980 บาท รวมส่งโอนเงิน
โทรสั่ง สินค้า  0809898770  สินค้าส่งจากกำแพงเพชร
เยอะครับ  บอกเลยมันเบามาก  ผมขายมาจะ 10ปีแล้ว  น่าจะเป็นเจ้าเดียวที่รู้จักในไทย
สิินค้ามีทั้งใบและก้านแห้ง  เป็นสินค้านำเข้า ไม่ได้บด เพื่อให้เห็นว่าเป็นของแท้แน่นอนแบบไม่มีการปลอมปน เหมือนพวกที่บดขาย 







1. ที่มาและตำนาน: ทำไมถึงชื่อ "แพะหงี่"?

ชื่อนี้ไม่ได้มาแบบไม่มีที่มา แต่มีตำนานเล่าขานกันมานับพันปีในประเทศจีน:

  • เรื่องเล่า: คนเลี้ยงแพะสังเกตเห็นว่า หลังจากที่ฝูงแพะของเขากินพืชชนิดหนึ่งเข้าไป พวกมันจะมีพฤติกรรมทางเพศที่คึกคักและผสมพันธุ์บ่อยครั้งเป็นพิเศษ

  • การตั้งชื่อ: จากการสังเกตนี้ เขาจึงเรียกพืชชนิดนั้นว่า "หยิน หยาง หัว" (淫羊藿 / Yín Yáng Huò) ซึ่งแปลตรงตัวได้ว่า "พืชที่ทำให้แพะหื่น" หรือ "หญ้าแพะหื่น" เมื่อแปลเป็นภาษาอังกฤษก็ได้ชื่อว่า "Horny Goat Weed" และคนไทยก็เรียกทับศัพท์หรือแปลตรงๆ ว่า "แพะหงี่" นั่นเอง

ชื่อทางวิทยาศาสตร์ของพืชสกุลนี้คือ Epimedium (เอพิมีเดียม) ครับ


2. กลไกทางวิทยาศาสตร์: อะไรที่ทำให้มัน "ได้ผล"?

นี่คือส่วนที่น่าทึ่งที่สุดและทำให้ "แพะหงี่" แตกต่างจากสมุนไพรบำรุงกำลังทั่วไป เพราะมันมีสารออกฤทธิ์ที่ทำงานในลักษณะที่ "คล้ายกับยาแผนปัจจุบันมาก"

สารออกฤทธิ์สำคัญที่สุดในแพะหงี่คือ "ไอคาริอิน" (Icariin)

กลไกหลักของสารไอคาริอิน คือ:

  • เป็นสารยับยั้ง PDE5 (Natural PDE5 Inhibitor):

    • นี่คือกลไกเดียวกับยาไวอากร้า (Sildenafil)!

    • อธิบายง่ายๆ: ในกระบวนการแข็งตัวของอวัยวะเพศ ร่างกายจะหลั่งสารที่ชื่อว่า cGMP เพื่อทำให้หลอดเลือดขยายตัวและเลือดไหลเข้าไปคั่ง แต่ร่างกายก็มีเอนไซม์ที่ชื่อ PDE5 คอยมาทำลายสาร cGMP นี้ ทำให้การแข็งตัวสิ้นสุดลง

    • สารไอคาริอิน (Icariin) จะเข้าไป "ขัดขวาง" การทำงานของเอนไซม์ PDE5 ทำให้สาร cGMP ไม่ถูกทำลายไปอย่างรวดเร็ว ผลคือหลอดเลือดสามารถขยายตัวได้นานขึ้น และคงสภาพการแข็งตัวไว้ได้ดีขึ้น

  • กระตุ้นการสร้างไนตริกออกไซด์ (Boost Nitric Oxide): ไอคาริอินยังช่วยกระตุ้นให้ร่างกายสร้าง "ไนตริกออกไซด์" ซึ่งเป็นสารตั้งต้นที่ทำให้เกิดสาร cGMP อีกทีหนึ่ง เท่ากับว่ามันช่วยทั้ง "ต้นทาง" และ "ปลายทาง" ของกระบวนการ

  • มีฤทธิ์คล้ายฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน (Testosterone-mimicking effect): มีงานวิจัยพบว่าไอคาริอินอาจช่วยกระตุ้นการทำงานของฮอร์โมนเพศชาย ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อการเพิ่ม "ความต้องการทางเพศ" (Libido)

สรุปกลไก: แพะหงี่ไม่ได้แค่ "บำรุงกำลัง" แต่มีสารออกฤทธิ์ที่ทำงาน "ตรงเป้า" กับกลไกการแข็งตัวของอวัยวะเพศและแรงขับเคลื่อนทางเพศโดยตรง


3. เปรียบเทียบให้ชัด: แพะหงี่ vs กระชายดำ vs ไวอากร้า

สมุนไพร 2 ตัวนี้ (แพะหงี่ และ กระชายดำ) มีความน่าสนใจตรงที่มันแชร์กลไกหลักเดียวกันกับยาแผนปัจจุบัน

คุณสมบัติแพะหงี่ (Horny Goat Weed)กระชายดำ (Black Galingale)ไวอากร้า (Sildenafil)
สารออกฤทธิ์หลักไอคาริอิน (Icariin)ฟลาโวนอยด์ (Flavonoids)ซิลเดนาฟิล (Sildenafil)
กลไกหลักยับยั้ง PDE5ยับยั้ง PDE5ยับยั้ง PDE5 (รุนแรงและจำเพาะกว่า)
ผลต่อ Libidoมีผลช่วยเพิ่ม (คล้ายเทสโทสเตอโรน)มีผลน้อยกว่าไม่มีผลโดยตรง (แค่ช่วยเรื่องการแข็งตัว)
สถานะผลิตภัณฑ์เสริมอาหารผลิตภัณฑ์เสริมอาหารยาควบคุมพิเศษ
หลักฐานรองรับสูงมากในสัตว์ทดลอง / ปานกลางในคนสูงในคน (โดยเฉพาะงานวิจัยไทย)สูงมากและชัดเจน

4. ข้อควรระวังและความปลอดภัย

ถึงแม้จะมีศักยภาพสูง แต่แพะหงี่ก็เป็นสมุนไพรที่มีฤทธิ์แรง และต้องใช้ด้วยความระมัดระวัง:

  1. ปริมาณการใช้: การใช้ในปริมาณสูงเกินไปอาจทำให้เกิดผลข้างเคียง เช่น เวียนศีรษะ อาเจียน ปากแห้ง กระหายน้ำ เลือดกำเดาไหล และในกรณีที่รุนแรงอาจทำให้กล้ามเนื้อกระตุกและหายใจลำบาก

  2. ปฏิกิริยากับยา: ห้ามใช้เด็ดขาด หากคุณกำลังทานยาเหล่านี้

    • ยาละลายลิ่มเลือด/ยาต้านเกล็ดเลือด (เช่น Warfarin, Aspirin) เพราะจะเสริมฤทธิ์กัน ทำให้เลือดออกง่าย

    • ยาลดความดันโลหิต เพราะอาจทำให้ความดันลดต่ำเกินไป

    • ยาเกี่ยวกับโรคหัวใจ โดยเฉพาะกลุ่มยาไนเตรต

  3. ผู้ที่ไม่ควรใช้: ผู้ที่มีภาวะความดันโลหิตต่ำ ผู้ที่มีโรคประจำตัวเกี่ยวกับหัวใจและหลอดเลือด และผู้ป่วยมะเร็งที่ไวต่อฮอร์โมน (เช่น มะเร็งเต้านม, มะเร็งต่อมลูกหมาก) ควรหลีกเลี่ยง

บทสรุป: "แพะหงี่" คือคำตอบหรือไม่?

ใช่ครับ "แพะหงี่" หรือ Horny Goat Weed คือหนึ่งใน "คำตอบ" ที่มีศักยภาพและมีหลักฐานทางกลไกวิทยาศาสตร์รองรับที่ชัดเจนที่สุดตัวหนึ่งในโลกของสมุนไพร

มันเป็นตัวเลือกที่อยู่ในระดับเดียวกับ "กระชายดำ" และ "โสม" โดยมีจุดเด่นที่กลไกการยับยั้งเอนไซม์ PDE5 ซึ่งคล้ายคลึงกับยาแผนปัจจุบันอย่างน่าทึ่ง

คำแนะนำ:
หากคุณสนใจจะใช้สมุนไพรกลุ่มนี้:

  • เริ่มต้นจากแหล่งที่เชื่อถือได้: เลือกผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ได้มาตรฐาน มีการระบุปริมาณสารสกัดไอคาริอิน (Icariin) ที่ชัดเจน

  • เริ่มจากปริมาณน้อยๆ: เพื่อดูการตอบสนองของร่างกาย

  • ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ: หากคุณมีโรคประจำตัวหรือทานยาอื่นอยู่ การปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่ง เพื่อความปลอดภัยสูงสุดครับ




  • สำหรับ "แพะหงี่" (Horny Goat Weed / 淫羊藿) ในรูปแบบใบแห้ง วิธีการนำมาใช้ที่นิยมและถูกต้องตามหลักแพทย์แผนจีน (TCM) คือการ "ต้ม" หรือ "ดองเหล้า" ครับ


    วิธีที่ 1: การต้มดื่มเป็นชาสมุนไพร (วิธีมาตรฐานและปลอดภัยที่สุด)

    นี่คือวิธีพื้นฐานที่สุดในการสกัดสารออกฤทธิ์ (เช่น Icariin) ออกมาจากใบพืชครับ

    ขั้นตอน:

    1. ปริมาณที่ใช้:

      • โดยทั่วไปสำหรับผู้เริ่มต้น แนะนำให้ใช้ใบแพะหงี่แห้งประมาณ 5-10 กรัม ต่อวัน (ประมาณ 1 หยิบมือเล็กๆ)

      • ห้ามใช้เกิน 15 กรัมต่อวัน เพราะถือว่าเป็นปริมาณที่สูงและอาจเกิดผลข้างเคียงได้

    2. การเตรียม:

      • นำใบแห้งมาล้างน้ำเร็วๆ หนึ่งครั้งเพื่อกำจัดฝุ่นผงที่อาจเกาะอยู่

    3. การต้ม:

      • ใส่ใบแพะหงี่ลงในหม้อ (ควรเป็นหม้อดินเผา, แก้ว หรือสแตนเลส ไม่แนะนำหม้ออลูมิเนียม)

      • เติมน้ำสะอาดประมาณ 500 - 700 มิลลิลิตร (ประมาณ 2-3 แก้ว)

      • ต้มด้วยไฟแรงจนเดือด จากนั้นลดเป็นไฟอ่อน เคี่ยวต่อไปอีกประมาณ 15-20 นาที เพื่อให้สารสำคัญละลายออกมาในน้ำอย่างเต็มที่

      • เมื่อครบเวลาแล้ว ให้กรองเอาเฉพาะน้ำมาดื่ม

    4. การดื่ม:

      • น้ำที่ได้จะมีสีเหลืองเข้มถึงน้ำตาลอ่อนๆ และมีกลิ่นเฉพาะตัว

      • สามารถแบ่งดื่มได้ 2-3 ครั้งในหนึ่งวัน (เช่น เช้า-เย็น)

      • ควรดื่มขณะที่ยังอุ่นๆ เพื่อการดูดซึมที่ดีตามหลักแพทย์แผนจีน

      • รสชาติอาจจะขมเล็กน้อย สามารถเติมน้ำผึ้งหรือพุทราจีนลงไปเล็กน้อยเพื่อช่วยให้ดื่มง่ายขึ้นได้

    ข้อดีของวิธีนี้: ปลอดภัย ควบคุมปริมาณได้ง่าย ร่างกายได้รับสารออกฤทธิ์ที่ละลายในน้ำได้ดี
    ข้อเสีย: ไม่สะดวกเท่าแบบแคปซูล และอาจไม่ได้สารออกฤทธิ์บางตัวที่ละลายได้ดีในแอลกอฮอล์


    วิธีที่ 2: การดองเหล้า (Tincture / ยาดอง)

    วิธีนี้เป็นที่นิยมมากในตำรับยาจีนโบราณ เพราะแอลกอฮอล์เป็นตัวทำละลายที่ดีเยี่ยม สามารถสกัดสารออกฤทธิ์ได้หลากหลายกว่าน้ำ และยังช่วยรักษาสภาพของยาได้นาน

    ขั้นตอน:

    1. อัตราส่วน:

      • ใช้ใบแพะหงี่แห้ง 50-100 กรัม ต่อเหล้าขาว (ดีกรีสูงๆ 35-40%) 1 ลิตร

    2. การเตรียม:

      • เตรียมโหลแก้วที่มีฝาปิดสนิท ล้างและฆ่าเชื้อให้เรียบร้อย

      • ใส่ใบแพะหงี่แห้งลงไปในโหล

    3. การดอง:

      • เทเหล้าขาวลงไปให้ท่วมตัวยา ปิดฝาให้สนิท

      • เขย่าโหลเบาๆ ทุกวันในช่วงสัปดาห์แรก เพื่อให้ตัวยาเข้ากับแอลกอฮอล์ได้ดี

      • นำไปเก็บในที่แห้งและเย็น ไม่โดนแสงแดดโดยตรง

      • ดองทิ้งไว้เป็นเวลาอย่างน้อย 1 เดือน (ยิ่งนานยิ่งดี แต่ไม่ควรเกิน 6 เดือน)

    4. การดื่ม:

      • เมื่อครบกำหนดแล้ว ให้กรองเอาแต่น้ำยาดองมาใช้

      • ดื่มในปริมาณน้อยๆ เพียง 1-2 ช้อนโต๊ะ (ประมาณ 15-30 มิลลิลิตร) ต่อวัน เท่านั้น! โดยปกติจะดื่มวันละครั้งก่อนนอน

      • ห้ามดื่มเหมือนเหล้าทั่วไปเด็ดขาด เพราะนี่คือ "ยา" ที่มีความเข้มข้นสูง

    ข้อดีของวิธีนี้: สกัดสารออกฤทธิ์ได้ครบถ้วนกว่า เก็บไว้ได้นาน
    ข้อเสีย:

    • อันตรายหากควบคุมปริมาณไม่ได้ การดื่มมากเกินไปคือการได้รับสารออกฤทธิ์เกินขนาดและแอลกอฮอล์เกินขนาดไปพร้อมกัน

    • ไม่เหมาะกับผู้ที่ต้องงดแอลกอฮอล์ ผู้ที่มีปัญหาเรื่องตับ หรือผู้ที่ต้องขับขี่ยานพาหนะ


    คำแนะนำและข้อควรระวังที่สำคัญที่สุด

    • แหล่งที่มา: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าใบแห้งที่คุณซื้อมานั้นสะอาด ปราศจากเชื้อรา และมาจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ

    • อย่าผสมมั่วซั่ว: ในตำรับยาจีนมักจะมีการใช้สมุนไพรหลายตัวร่วมกัน (เช่น ใส่เก๋ากี้, โสม, ตังกุย) เพื่อปรับสมดุลฤทธิ์ยา แต่หากคุณไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ ให้เริ่มต้นจากการใช้สมุนไพรตัวเดียวก่อน เพื่อสังเกตผลและผลข้างเคียงให้ชัดเจน

    • ใช้เป็นรอบ ไม่ใช้ต่อเนื่อง: ไม่แนะนำให้ทานทุกวันเป็นระยะเวลานานๆ ตามหลักแล้วควรมีการหยุดพัก เช่น ทาน 5 วัน หยุด 2 วัน หรือทาน 3 สัปดาห์ หยุด 1 สัปดาห์ เพื่อให้ร่างกายได้ปรับตัวและไม่เกิดการสะสม

    • ฟังเสียงร่างกาย: หากมีอาการผิดปกติ เช่น ใจสั่น เวียนศีรษะ นอนไม่หลับ หรือความดันผิดปกติ ให้หยุดใช้ทันที

    สรุป: สำหรับผู้ใช้ทั่วไป ผมแนะนำให้เริ่มต้นด้วย "วิธีการต้ม" เพราะเป็นวิธีที่ควบคุมง่ายและปลอดภัยที่สุด ส่วน "วิธีการดองเหล้า" ควรทำโดยผู้ที่มีความเข้าใจจริงๆ หรืออยู่ภายใต้คำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญครับ





น้ำหมักขี้วัวนี่แหละของดี!


 

🌱 ลุงไม่ได้โม้...น้ำหมักขี้วัวนี่แหละของดี!

สมัยลุงปลูกมะเขือยาว มะเขือพวงอยู่ท้ายสวน ลุงไม่เคยเสียเงินซื้อปุ๋ยแม้แต่บาทเดียว! ใส่แต่ “น้ำหมักขี้วัว” นี่แหละ...แค่ผักกินใบยังเขียวปั๊ดจนนึกว่าโดนฟิลเตอร์เขียวใน TikTok! 😆

วันนี้เลยมาเล่าให้ฟังง่ายๆ แบบไม่ต้องเครียด ไม่ต้องจดจำมาก ทำง่าย ใช้ดี เห็นผลชัวร์


🐄 #น้ำหมักขี้วัว ทำไงมาดูทีละข้อแบบคนกันเอง

  1. ขี้วัวแบบไหนดี?
    เอาแบบ “หมาดๆ” ยังอุ่นๆ นิดๆ ไม่แห้งกรอบเหมือนปลาแดดเดียว กำลังดี ฟีลประมาณข้าวเหนียวค้างคืน 😅

  2. ใส่อะไรแช่?
    ใส่ใน “กระสอบป่าน” หรือ “กระสอบพลาสติก” ที่รูพรุนให้น้ำไหลได้ อย่าไปใส่ถุงแกง ไม่ใช่ของกิน!

  3. ใส่เยอะแค่ไหน?
    เอาแค่พอยกขึ้นจากน้ำได้ ไม่ต้องยัดจนยกทีปวดหลัง ยกไหวแค่ไหน ใส่แค่นั้น

  4. น้ำเท่าไหร่ดี?
    ใส่ให้ท่วมกระสอบพอ…เหมือนล้างข้าว แล้วน้ำยังพอขลุกๆ อยู่

  5. แช่ที่ไหนดี?
    ใช้ “กะบะ” จะสะดวกกว่า “โอ่ง” เพราะขอบไม่สูง ยกง่าย ไม่ต้องไปงัดแบบนักยกน้ำหนัก

  6. แช่กี่วัน?
    สัก 7-10 วัน กำลังหอม…เอ๊ย! กำลังได้ที่ วัชพืชตายเกลี้ยง เหลือแต่น้ำดีๆ

  7. เก็บได้นานมั้ย?
    เก็บได้เรื่อยๆ ขอแค่ใส่ถังปิดฝาแน่นๆ กันยุงไม่ให้ลงไปจัดปาร์ตี้วางไข่

  8. ครบกำหนดแล้วยังไงต่อ?
    ยกกระสอบขึ้น ให้สะเด็ดน้ำ ทิ้งไว้พักนิด แล้วค่อยเอาไปใช้ อะไรดีๆ ก็ต้องรอเนอะ


💡 แล้วมันดียังไง?

  1. ได้ปุ๋ยน้ำไนโตรเจนสูง
    พวกผักกินใบจะงามนัก! เขียวสดเหมือนโดนโฟโต้ช็อป

  2. ได้กากวัตถุอินทรีย์
    เอาไปโรยดิน ทำดินร่วน ฟู มีชีวิตชีวา

  3. ไม่ต้องหมักยุ่งยาก
    ไม่ต้องขนของสิบอย่างมาผสม แค่ขี้วัวกับน้ำก็เอาอยู่!


🧴 แล้วจะใช้ยังไงดี?

  • น้ำปุ๋ย: ผสมกับน้ำเปล่าในอัตรา 1:10 แล้วรดผัก รดต้นไม้ จะเปลี่ยนจากหม่นหมองเป็นผ่องใส

  • กาก: เอาไปโรยโคนต้นหรือรอบทรงพุ่ม เป็นอาหารให้จุลินทรีย์ ดินจะฟูนุ่มเหมือนเค้กปอนด์


✅ สรุป: “ดีนักแล!”

ทำเอง ใช้เอง ประหยัดเอง งอกงามเอง ใครทำก็ได้ผลเหมือนกัน ไม่ต้องเป็นนักวิทยาศาสตร์ก็ปลูกผักได้ กินเองก็อร่อย ขายก็ได้เงิน สวนก็เขียว ต้นไม้ก็รักเรา ❤️


📌 #น้ำหมักขี้วัวคืออะไร?
ก็แค่ของง่ายๆ แต่ทรงพลัง! ของดีของชาวสวน ที่ใครๆ ก็ทำได้...ลองดูสิ แล้วจะรู้ว่า “ขี้วัว” ก็มีค่ากว่าที่คิดนะเออ 😄

เห็ดกระถินพิมานรักษามะเร็ง

พ่นควันไล่ผึ้ง

รักษาเก๊าท์

โกฏจุฬาลัมพาแห้ง