การดูแลและแปลงปลูกกล้วยน้ำว้าในฤดูฝน
.ฤดูฝนเป็นช่วงที่กล้วยน้ำว้าเจริญเติบโตได้ดี แต่ก็ต้องดูแลเป็นพิเศษเพื่อป้องกันโรคและแมลง ดังนี้
.
1. การเตรียมแปลงปลูก:
การระบายน้ำ: ตรวจสอบระบบระบายน้ำในแปลงปลูกให้ดี น้ำท่วมขังจะทำให้รากเน่าได้
การเตรียมดิน:
ไถพรวนดินตากแดด 7-14 วัน ก่อนปลูก เพื่อกำจัดวัชพืชและศัตรูพืช
ผสมดินปลูกกับปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก หรือปุ๋ยพืชสด เพื่อเพิ่มธาตุอาหารในดิน
การเตรียมหน่อพันธุ์:
เลือกหน่อพันธุ์ที่แข็งแรง สมบูรณ์ ปราศจากโรคและแมลง
ตัดแต่งรากและใบออกบางส่วนก่อนปลูก
.
2. การปลูก:
ระยะปลูก: ควรปลูกระยะห่าง 2x2 เมตร หรือ 2.5x2.5 เมตร
การปลูก: ขุดหลุมปลูกให้มีความกว้างและลึกประมาณ 50x50x50 เซนติเมตร
รองก้นหลุม: ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก ประมาณ 1/4 ของหลุม แล้วกลบดินบางๆ
วางหน่อพันธุ์: วางหน่อพันธุ์ลงกลางหลุม กลบดินให้แน่น รดน้ำให้ชุ่ม
.
3. การดูแลรักษา:
การให้น้ำ: ในฤดูฝนอาจไม่จำเป็นต้องรดน้ำบ่อย แต่ควรรักษาความชื้นในดินให้สม่ำเสมอ
.
การใส่ปุ๋ย: ควรใส่ปุ๋ยอย่างน้อย 3 ครั้ง/ปี โดยใช้ปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก หรือปุ๋ยเคมีสูตร 15-15-15(สูตรปัญญาอ่อนของ ราชการจบเกษตร)
...................................
(สูตรของลุงตามช่วงอายุ
การใส่ปุ๋ยกล้วยน้ำว้าแบบแบ่งช่วงอายุ
.
1. ช่วงต้นอ่อน (1-3 เดือน)
ความต้องการ: เน้นการเจริญเติบโตของราก ลำต้น และใบ
สูตรปุ๋ยที่แนะนำ: สูตรที่มีไนโตรเจนสูง เช่น 46-0-0 หรือ 25-7-7
วิธีการใส่:
ใส่ปุ๋ยรอบโคนต้น โดยโรยปุ๋ยห่างจากโคนต้นประมาณ 15-20 เซนติเมตร แล้วพรวนดินกลบ
ใส่ปุ๋ย 1-2 ครั้ง/เดือน
.
2. ช่วงก่อนออกดอก (4-7 เดือน)
ความต้องการ: เน้นการเจริญเติบโตของก้านใบ และเตรียมพร้อมสำหรับการออกดอกออกผล
สูตรปุ๋ยที่แนะนำ: สูตรที่มีฟอสฟอรัสสูง เช่น 12-24-12 หรือ 8-24-24
วิธีการใส่:
ใส่ปุ๋ยรอบโคนต้น โดยโรยปุ๋ยห่างจากโคนต้นประมาณ 30-50 เซนติเมตร แล้วพรวนดินกลบ
ใส่ปุ๋ย 2-3 ครั้ง/เดือน
.
3. ช่วงออกดอก - เก็บเกี่ยว (8-12 เดือน)
ความต้องการ: เน้นการเจริญเติบโตของผล และบำรุงรักษาต้น
สูตรปุ๋ยที่แนะนำ: สูตรที่มีโพแทสเซียมสูง เช่น 13-13-21 หรือ 9-24-36
.
วิธีการใส่:
ใส่ปุ๋ยรอบโคนต้น โดยโรยปุ๋ยห่างจากโคนต้นประมาณ 50-100 เซนติเมตร แล้วพรวนดินกลบ
ใส่ปุ๋ย 2-3 ครั้ง/เดือน
.
ข้อควรระวัง:
ปริมาณการใส่ปุ๋ยที่เหมาะสม ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น ความอุดมสมบูรณ์ของดิน สภาพอากาศ และ พันธุ์กล้วย)
.....................................
.
การพรวนดินและกำจัดวัชพืช: ควรพรวนดินและกำจัดวัชพืชอย่างสม่ำเสมอ เพื่อไม่ให้แย่งอาหารและน้ำจากต้นกล้วย
การป้องกันโรคและแมลง:
ตรวจดูต้นกล้วยเป็นประจำ
ใช้สารชีวภัณฑ์ หรือ สารเคมีตามคำแนะนำของกรมวิชาการเกษตร
กำจัดเศษซากพืชที่เป็นโรคออกจากแปลง
การค้ำยัน: เมื่อต้นกล้วยเริ่มออกปลี ควรใช้ไม้ค้ำยัน เพื่อป้องกันต้นล้ม
.
4. การเก็บเกี่ยว:
กล้วยน้ำว้าจะสามารถเก็บเกี่ยวได้หลังจากปลูกประมาณ 8-12 เดือน
เลือกเก็บเกี่ยวผลที่แก่จัด หรือ มีสีเขียวเข้ม
ข้อควรระวัง:
ในฤดูฝน ควรระมัดระวังโรคและแมลงที่ระบาดในช่วงฝนตกชุก
ควรศึกษาข้อมูลการใช้สารเคมีอย่างรอบคอบ
.
คำแนะนำเพิ่มเติม:
การปลูกพืชร่วมกับกล้วย เช่น พืชตระกูลถั่ว ช่วยเพิ่มธาตุอาหารในดิน และลดการระบาดของโรคและแมลง
การทำระบบน้ำหยด ช่วยประหยัดน้ำ และ กระจายน้ำได้อย่างทั่วถึง
การดูแลแปลงปลูกกล้วยน้ำว้าในฤดูฝนอย่างถูกวิธี จะช่วยให้กล้วยเจริญเติบโตได้ดี ให้ผลผลิตสูง และมีคุณภาพ
..............................
โรคและแมลงศัตรูกล้วยที่ระบาดในฤดูฝน มีดังนี้
โรคที่สำคัญ
โรคตายพราย (Panama Wilt): เกิดจากเชื้อราในดิน ทำให้ใบเหลือง เหี่ยว และยืนต้นตาย
การป้องกัน: ใช้หน่อพันธุ์ที่ปลอดโรค ไม่นำดินหรือวัสดุปลูกจากแหล่งที่เป็นโรคมาใช้
โรคใบจุด (Sigatoka): เกิดจากเชื้อรา ทำให้ใบเป็นจุดสีน้ำตาล
การป้องกัน: ตัดแต่งใบที่เป็นโรคทิ้ง รักษาความสะอาดแปลงปลูก
โรคแอนแทรคโนส (Anthracnose): เกิดจากเชื้อรา ทำให้ผลเน่า
การป้องกัน: ตัดแต่งใบที่เป็นโรคทิ้ง ใช้สารป้องกันกำจัดโรคพืชเมื่อพบการระบาด
แมลงที่สำคัญ
หนอนกอ (Banana Stem Weevil): ตัวอ่อนกัดกินภายในลำต้น ทำให้ต้นเหี่ยวและหักล้ม
การป้องกัน: ทำความสะอาดแปลงปลูก ใช้สารฆ่าแมลง
เพลี้ยไฟ (Thrips): ดูดกินน้ำเลี้ยงจากใบและผล ทำให้ใบและผลมีรอยจุดสีน้ำตาล
การป้องกัน: ใช้กับดักเหนียวสีฟ้า ใช้สารฆ่าแมลง
ไรแดง (Red Spider Mite): ดูดกินน้ำเลี้ยงจากใบ ทำให้ใบเหลืองซีด
การป้องกัน: รักษาความชื้น ฉีดพ่นน้ำ ใช้สารฆ่าแมลง
.
ข้อควรระวัง:
ควรหมั่นตรวจแปลงอย่างสม่ำเสมอ เพื่อสังเกตการระบาดของโรคและแมลง
หากพบการระบาด ควรใช้สารป้องกันกำจัดโรคพืชหรือแมลง ที่กรมวิชาการเกษตรแนะนำ และใช้ในปริมาณที่เหมาะสม
ควรศึกษาข้อมูลวิธีการใช้สารเคมีอย่างรอบคอบ ป้องกันอันตรายต่อตัวเองและสิ่งแวดล้อม
.
คำแนะนำเพิ่มเติม:
การดูแลต้นกล้วยให้แข็งแรง จะช่วยให้กล้วยต้านทานโรคและแมลงได้ดีขึ้น
การใช้สารชีวภัณฑ์ เช่น เชื้อราไตรโคเดอร์มา หรือ บิวเวอร์เรีย เป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการควบคุมโรคและแมลงศัตรูพืช
ขอให้ป้องกันและแก้ไขปัญหาโรคและแมลงศัตรูกล้วยได้อย่างมีประสิทธิภาพ และได้ผลผลิตกล้วยที่ดี
(การที่แนะนำ 15-15-15 เพราะเป็นสูตรที่มีธาตุอาหารครบทั้ง 3 ชนิด ในปริมาณที่เท่ากัน #จึงเหมาะสำหรับเกษตรกรมือใหม่ ที่อาจยังไม่ทราบวิธีการผสมปุ๋ย และไม่แน่ใจว่าควรใช้สูตรใด
อย่างไรก็ตาม การใส่ปุ๋ยกล้วยน้ำว้าให้ได้ผลผลิตสูงสุด ควรพิจารณาความต้องการธาตุอาหารของกล้วยในแต่ละช่วงอายุ ดังที่ได้อธิบายไปแล้ว ซึ่งการใส่ปุ๋ยสูตรเฉพาะ จะช่วยให้ต้นกล้วยได้รับธาตุอาหารครบถ้วน และตรงกับความต้องการมากที่สุด ส่งผลให้กล้วยเจริญเติบโตได้ดี และให้ผลผลิตสูง)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น