วันพุธที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2562

กระชายดำ..น่าจับตาสำหรับคนมีที่น้อย หรือมีป่าร่มๆอยู่แล้ว

 สถานการณ์ กระชายดำ อาจจะไม่ถึงกับขาดแคลน แต่ความต้องการของตลาด  เรียกว่า
ไปทางบวกมากกว่า 60% ไม่ถึงกับร้อนแรง แต่ อยู่ในประเภท ไปได้เรื่อยๆ
มีการซื้อขายกันทั้งปี เรียกว่า ราคาน่าจับตามอง ราคาขายปลีกในกทม..เกือบ 1000 บาท/กิโล
 ราคาขายส่ง จากศูนย์รับซื้อที่แห้งแล้ว ก็ประมาน 400-500 บาท/กิโลกรัม ที่ออกจากพ่อค้าคนกลางหรือผู้รวบรวม
.
ราคาที่เกษตรกรผู้ปลูกได้รับ ก็ 200-300 บาท/กิโลกรัม (ราคา ณ.วันที่ 25-31 ตุลาคม 2562)


ส่วนความสามารถ ในการขายของแต่ละคน นั่นคือตัวแปร มากว่า ที่จะพาไปสู่ความสำเร็จ ในวันนี้และอนาคต
.
ถ้าเรายังทำตัวเป็นแค่ ผู้รับจ้างปลูกแล้วขายถูกๆ ออกไป นั่นคือการย่ำอยู่กับที่ และก็จะยากจนอยู่เช่นเดิม
ทุนจีนเข้ามาจ่อคอหอยถ้าเกษตรกรไม่ผันตัวมาเป็นผู้ประกอบการ ก็ยากที่จะต้านการค้าที่ไร้พรมแดนได้
การลงมือแปรรูปจึงเป็นคำตอบสุดท้าย การรวมกลุ่มการผลิตแบบห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทจำกัด จะเกิดขึ้นมากมาย
.
แล้วคุณจะยังมาขายแบบเดิมๆ ไม่พัฒนาตัวเองขึ้นมา มันไม่ได้
.
กระชายดำเป็นสิ่งที่โลกต้องการพอควร ในการใช้ทำยา โอกาศมาแล้วคุณไม่คว้าเอาไว้แต่แรกๆ จนคนอื่นคว้าเอาไปหมด ถึงต้อนนั้นคิดจะเอื้อมมือไปคว้า ก็คงไม่มีอะไรให้หยิบจับแล้ว



การปลูก ก็แค่เอาเหง้ามันไปฝังดิน เท่านั้น รดน้ำมันมั่ง เดี๋ยวมันก็งอกออกมา
จากนั้นพอมันกอหญ่ ก็ขยาย มันออกไปเรื่อยๆ เท่านั้นเอง มันไม่ชอบแดดจัดๆ ก็ปลูกรวมๆไว้กับ พืชหลัก นั่นละ อาสัยการพรางแสง ให้นิดหน่อย มันก้ได้แล้ว


พอมันลงหัว ก็ถอนเอามา ล้าง สับ หั่น ตากแดด แล้วแปรรูปเองก็ได้ราคาเยอะ ขายส่งเขาก็ถูกลงมาหน่อย ตรงนี้ แล้วแต่ ความสามารถ ส่วนบุคคล

ถึงบอกวันนี้เวป บล๊อก ยังมีความสำคัญสูงสุด มากกว่าเฟศ ด้วยซ้ำไป เพราะคนทั่วไป หาเจอได้มากกว่า

ตรงนี้คือเรื่องจริง ที่ไม่อาจปฏิเศษ ได้แน่นอน
.
ลุงก็ฝากไว้ให้คิดดู เป็นแนวทางในการทำเกษตรในวันนี้ และวันข้างหน้า


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เห็ดกระถินพิมานรักษามะเร็ง

พ่นควันไล่ผึ้ง

รักษาเก๊าท์

โกฏจุฬาลัมพาแห้ง