ตามที่ได้วางแผนเอาไว้
ก็ไม่รู้ว่าจะไปได้แค่ไหน วันๆ ทำงานได้วันละนิด
ต้องเข้าใจว่า การรื้อสวนเพื่อปรับปรุง มันทำไปคิด
.
พืชหลักที่จะลง คือ มะรุมอินเดีย กระเจี๊ยบซูดาน มะแว้ง
โดยมีพืชรองคือ กล้วย มะพร้าว แล้วก็สมุนไพร แปลงเล็กๆ
.
โดยตอนนี้ มะรุม ก็ถือได้ว่า เอาเม็ดไปหยอดเกือบทั้งหมดแล้ว น่าจะเหลือสัก 1 ไร่ ที่ต้องปรับพื้นที่ไหม่
.
โดยแนวคิดที่ปลูกมะรุมคือ ขอ เดือนละ 1 โล ต่อต้น โดยประมาณ เมื่อโตเต็มวัย น่าจะได้สักเดือนละ 500 โล
.
โดยปลูกที่ระยะ 1 เมตร+2.5 เมตร โดย ระหว่างต้น จะแบ่ง ออกเป็น 2 อย่างคือ ตัดใบ อันนี้จะคุมความสูงไว้ โดยปล่อยให้สูง 1 ต้น แล้ว เตี้ย 2 ต้น สลับกันไป ต้นสูงก็เก็บฝัก รายได้ที่คาดว่าจะได้ 20000 บาท/เดือน
.
ที่โคน มะรุม ก็หยอด มะแว้ง ใส่เข้าไปเลย หลุมละ 5 -7เม็ด (คือมันต้องงอกมั่งละ ขึ้เกียจเพาะกล้า)
โดยคาดหวังว่า มะแว้ง 1 ต้น เดือนละโล มันจะไม่ได้เชียวหรือ เป้าหมายคือ 2000 ต้น ได้สัก 500-700 โลแบบเดาๆ ก็น่าจะ ได้ เดือนละ 4-5 หมื่นบาทสำหรับมะแว้ง
.
กระเจี๊ยบซูดาน ตอนวางแผนก้สวยหรู ดูดี ว่าจะหยอดไห้เป็นแถวๆ สวยๆ พอลงมือทำจริง มันเหนื่อยโคตร
.ปรับแผนใหม่ ไถไห้เสมอ แล้วหว่านเลย ในแปลงที่ปลูกมะรุมนั่นละ ที่เว้นไว่ 2.5 เมตร ตรงกลาง
พอหว่านเสร็จ ก็เอารถไถ วิ่งเลย ที่นี่สะดวกและไว จบงาน ได้ งอกขึ้นมาเยอะแล้ว แต่ยังไม่โต ก็ยังไม่รู้ว่า จะได้ถึง 1 ตันหนือเปล่า เพราะไม่เคยปลูก ระบบนี้ เคยแต่ปล่อยต้นใหญ่ แล้วเดินเก็บเม็ด ระบบเกี่ยวต้น นี่ยังไม่มีข้อมูล ถ้าได้ 1 ตัน/รุ่น ก็จะมีรายได้ 50000-100000 ต่อคราว ก็อยู่ท่จังหวะ ราคา
.
หลืออีกประมาณ 1 ไร่ ปรับพื้นที่ยังไม่พร้อม แต่น่าจะลงได้ อาทิตย์หน้า ก็จะจบ สำหรับพืชหลัก
.
ก็คงจะลง หนานเฉาเหว่ย ยาวไป 100 -200 เมตร คันที
มะพร้าว ตามคันบ่อ ทางเดิน ทางรถ ที่เว้นไว้ให้รถวิ่งแลลสะบาย
ลูกอินจัน ยอ ชิงเฮา หญ้าหวาน หญ้าปักกิ่ง ฟ้าทะลายโจน และอื่นๆ คงลงทางเดินเป็นแปลงๆ
.
กล้วยมันยังลงไม่ได้ ต้องรอให้ชุดแรก โตสักหน่อย ไม่งั้นจะเดินเหยียบหมด
เพราะต้องถ่าย พันธ์จากแปลงหน้าบ้าน ลงไป แปลงหลังสวน
.
ส่วน ยอ กับ มะตูม คงต้องเพาะกล้ารอไว้ก่อน ให้โตสักหน่อย
ถามว่า ทำไม ถึงหันมาปลูกแบบนี้
ก็ต้องย้อนไป ในวันที่ไม่สะบาย ทำให้เราคิดทันที
ลูกเมีย ทำไม่ไหวแน่ กล้วยนี่ แล้วอีกอย่าง คิดและวางแผน มาพอสมควร ว่าจะหาพืนที่ ทำง่ายๆ ไม่ต้องฉีดยา ไม่ต้องรถน้ำ แต่หว่านๆ ให้มันเป็นระเบียบ มีร่ม มีแจ้ง ตามที่มันชอบ
.
บริหารแปลง ง่ายๆ อย่างเดียว ลูกเมีย ก็จ้างเขามาทำได้ ดูเรื่องบริหารอย่างเดียว น่าจะง่าย
.
ก็เลย ประสานงานกับแหล่งรับซื้อ ขอข้อมูล กัน หลายๆที่ ...ท้ายที่สุดจึงมาลงที่พืย หลัก 3 ตัว ตัวรองตือ ยอ กับมะตูม ต้องรอแปลงใหม่ เพราะ หมดที่จะปลูก เพราะต้องลง 5 ไร 10 ไร่ แปลงใหญ่เลยทีเดียว แล้วปลูกพืชอื่นเสริมเอา ตอนที่ยังไม่มีรายได้
.
มองว่า ต้นไม้ ยิ่งอายุมาก ผลผลิต มันจะเพิ่ม ไม่ต้องปลูกบ่อย ทำให้เราขยายงายไปตั้งโรงงานเล็กๆ เพื่อแปรรูปเองได้ นั่นละ
.
คงอีกไม่กี่เดือน แปลงก็คงจะสวย ตอนนี้ถ่ายก็ไม่มีอะไร ยังได้ไม่ถึง 2 ซม เลย ที่มันโต แต่ อีก 1 เดือน ไม่แน่ พวกนี้โตเร็ว
.
ฝนดีทุกวัน ถึงได้เร่งปลูก เพาะลงแปลงไปเลย ไม่เพากล้า เพื่อนประหยัดแรงงาน
.
แต่ก็เพาสำรองเอาไว้ ใส่ถุง สำหรับงานปลูกซ่อม
.
ก็ได้แต่หวังว่า ทุกอย่างจะเป็นไปตามที่วางแผนเอาไว้ แค่รอเวลาเท่านั้น ที่จะพิสูจน์ว่า
.
สิ่งที่คิด ..มันถูกต้อง สิ่งที่มองตลาด ว่า มันถูกต้อง แล้ว ที่เราจะเดินไปทางนั้น ในวันนี้
ก็ไม่รู้ว่าจะไปได้แค่ไหน วันๆ ทำงานได้วันละนิด
ต้องเข้าใจว่า การรื้อสวนเพื่อปรับปรุง มันทำไปคิด
.
พืชหลักที่จะลง คือ มะรุมอินเดีย กระเจี๊ยบซูดาน มะแว้ง
โดยมีพืชรองคือ กล้วย มะพร้าว แล้วก็สมุนไพร แปลงเล็กๆ
.
โดยตอนนี้ มะรุม ก็ถือได้ว่า เอาเม็ดไปหยอดเกือบทั้งหมดแล้ว น่าจะเหลือสัก 1 ไร่ ที่ต้องปรับพื้นที่ไหม่
.
.
โดยปลูกที่ระยะ 1 เมตร+2.5 เมตร โดย ระหว่างต้น จะแบ่ง ออกเป็น 2 อย่างคือ ตัดใบ อันนี้จะคุมความสูงไว้ โดยปล่อยให้สูง 1 ต้น แล้ว เตี้ย 2 ต้น สลับกันไป ต้นสูงก็เก็บฝัก รายได้ที่คาดว่าจะได้ 20000 บาท/เดือน
.
ที่โคน มะรุม ก็หยอด มะแว้ง ใส่เข้าไปเลย หลุมละ 5 -7เม็ด (คือมันต้องงอกมั่งละ ขึ้เกียจเพาะกล้า)
โดยคาดหวังว่า มะแว้ง 1 ต้น เดือนละโล มันจะไม่ได้เชียวหรือ เป้าหมายคือ 2000 ต้น ได้สัก 500-700 โลแบบเดาๆ ก็น่าจะ ได้ เดือนละ 4-5 หมื่นบาทสำหรับมะแว้ง
.
กระเจี๊ยบซูดาน ตอนวางแผนก้สวยหรู ดูดี ว่าจะหยอดไห้เป็นแถวๆ สวยๆ พอลงมือทำจริง มันเหนื่อยโคตร
.ปรับแผนใหม่ ไถไห้เสมอ แล้วหว่านเลย ในแปลงที่ปลูกมะรุมนั่นละ ที่เว้นไว่ 2.5 เมตร ตรงกลาง
พอหว่านเสร็จ ก็เอารถไถ วิ่งเลย ที่นี่สะดวกและไว จบงาน ได้ งอกขึ้นมาเยอะแล้ว แต่ยังไม่โต ก็ยังไม่รู้ว่า จะได้ถึง 1 ตันหนือเปล่า เพราะไม่เคยปลูก ระบบนี้ เคยแต่ปล่อยต้นใหญ่ แล้วเดินเก็บเม็ด ระบบเกี่ยวต้น นี่ยังไม่มีข้อมูล ถ้าได้ 1 ตัน/รุ่น ก็จะมีรายได้ 50000-100000 ต่อคราว ก็อยู่ท่จังหวะ ราคา
.
หลืออีกประมาณ 1 ไร่ ปรับพื้นที่ยังไม่พร้อม แต่น่าจะลงได้ อาทิตย์หน้า ก็จะจบ สำหรับพืชหลัก
.
ก็คงจะลง หนานเฉาเหว่ย ยาวไป 100 -200 เมตร คันที
มะพร้าว ตามคันบ่อ ทางเดิน ทางรถ ที่เว้นไว้ให้รถวิ่งแลลสะบาย
ลูกอินจัน ยอ ชิงเฮา หญ้าหวาน หญ้าปักกิ่ง ฟ้าทะลายโจน และอื่นๆ คงลงทางเดินเป็นแปลงๆ
.
กล้วยมันยังลงไม่ได้ ต้องรอให้ชุดแรก โตสักหน่อย ไม่งั้นจะเดินเหยียบหมด
เพราะต้องถ่าย พันธ์จากแปลงหน้าบ้าน ลงไป แปลงหลังสวน
.
ส่วน ยอ กับ มะตูม คงต้องเพาะกล้ารอไว้ก่อน ให้โตสักหน่อย
ถามว่า ทำไม ถึงหันมาปลูกแบบนี้
ก็ต้องย้อนไป ในวันที่ไม่สะบาย ทำให้เราคิดทันที
ลูกเมีย ทำไม่ไหวแน่ กล้วยนี่ แล้วอีกอย่าง คิดและวางแผน มาพอสมควร ว่าจะหาพืนที่ ทำง่ายๆ ไม่ต้องฉีดยา ไม่ต้องรถน้ำ แต่หว่านๆ ให้มันเป็นระเบียบ มีร่ม มีแจ้ง ตามที่มันชอบ
.
บริหารแปลง ง่ายๆ อย่างเดียว ลูกเมีย ก็จ้างเขามาทำได้ ดูเรื่องบริหารอย่างเดียว น่าจะง่าย
.
ก็เลย ประสานงานกับแหล่งรับซื้อ ขอข้อมูล กัน หลายๆที่ ...ท้ายที่สุดจึงมาลงที่พืย หลัก 3 ตัว ตัวรองตือ ยอ กับมะตูม ต้องรอแปลงใหม่ เพราะ หมดที่จะปลูก เพราะต้องลง 5 ไร 10 ไร่ แปลงใหญ่เลยทีเดียว แล้วปลูกพืชอื่นเสริมเอา ตอนที่ยังไม่มีรายได้
.
มองว่า ต้นไม้ ยิ่งอายุมาก ผลผลิต มันจะเพิ่ม ไม่ต้องปลูกบ่อย ทำให้เราขยายงายไปตั้งโรงงานเล็กๆ เพื่อแปรรูปเองได้ นั่นละ
.
คงอีกไม่กี่เดือน แปลงก็คงจะสวย ตอนนี้ถ่ายก็ไม่มีอะไร ยังได้ไม่ถึง 2 ซม เลย ที่มันโต แต่ อีก 1 เดือน ไม่แน่ พวกนี้โตเร็ว
.
ฝนดีทุกวัน ถึงได้เร่งปลูก เพาะลงแปลงไปเลย ไม่เพากล้า เพื่อนประหยัดแรงงาน
.
แต่ก็เพาสำรองเอาไว้ ใส่ถุง สำหรับงานปลูกซ่อม
.
ก็ได้แต่หวังว่า ทุกอย่างจะเป็นไปตามที่วางแผนเอาไว้ แค่รอเวลาเท่านั้น ที่จะพิสูจน์ว่า
.
สิ่งที่คิด ..มันถูกต้อง สิ่งที่มองตลาด ว่า มันถูกต้อง แล้ว ที่เราจะเดินไปทางนั้น ในวันนี้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น