หัวใจลุงนะน่ะ
พยายามให้เกิดการรวมกลุ่มกันเอง
ของเกษตรกร..อย่าให้ใครมาจัดการให้...ต้องรวมกันเอง 5 คน 10 คน
.
ทำเกษตรแปลงใหญ่ให้ได้
เริ่มต้นที่ คนละ 2 ไร่ 5 ไร่ 10ไร่ ขยายออกไป ปีละหน่อย
.
กลุ่มต้นแบบ มันอาจไม่ใหญ่ แต่พอเขาเห็นว่าเราได้เงิน มีรายได้..เดี๋ยวชาวบ้านก็เข้ามาเอง
.
ต่างคนต่างทำ มันกระจาย การรวบรวมผลผลิต มันยาก ค่าใช้จ่ายมันสูงขึ้น การรับซื้อ ราคามันจึงต้องลดลง
.
การรวมแปลงใหญ่ การส่งเสริม มันง่ายกว่า ผลผลิตมันพอที่จะทำงาน
.
อย่างกล้วย ที่บ่นๆว่า ราคาลดลง...ตัวการนี้ อยู่ที่โรงงานกล้วยตาก ทั้งนั้นเป็นตัวทำตลาดเสีย(อันนี้ความจริง)
.
ราคา ตลาดจริงๆ ไม่ได้ลดลง ยังขายกันแบบ ตกเกรด 15 บาท กลาง20 จัมโบ้ 25 ราคาส่ง ยังเป็นแบบนี้
.
ตัวทุบราคา คือโรงงานกล้วยตาก ที่ตอนนี้ ช้อนซื้อของถูก ตุนเอาไปเพียบแบบเท่าไร ไม่อั้น
.
เราจึงยังเห็น ราคาขายปลีกในตลาดเป็น 30-45 บาท/หวีอยู่
.
ฉนั้นถ้าจะเริ่มปลูกกล้วย ต้แงคิดถึงตรงนี้ก่อน จะขายให้กับกลุ่มไหน
.
ถ้าท่านไปคุยกับพ่อคาที่ส่ง โรงงานกล้วยตากเป็นหลัก จะได้ราคาถูก เพราะกลุ่มนี้จะนำกล้วยเข้าตลาดใหญ่ไม่ได้
.
ไม่มีคิว ไม่มีพรรคพวก จึงตีราคาได้ถูกกว่า
.
กับอีกกลุ่มนึ่ง มีคิวในตลลาดใหญ่ๆ กลุ่มนี้ราคาจะแพง
.
สมัยนี้ จะเข้าไปเปิดท้ายขายเองที่ตลาดใหญ่ๆ ลำบาก เพราะต้องมีการกีดกัน เพื่อให่แผงอยู่ได้ สี่มุมเมืองนี่หมดสิทธิ
.
ตลาดไท ก็จำกัดรถเร่ แล้ว ไม่ใช่วิ่งเข้าไป ขายได้ง่ายๆ รอคิวสุกทั้งคันก็เจอกันมาบ่อยๆ
.
ถ้าคิดจะปลูกกล้วย ต้องคิดถึง คนรับซื้อก่อน พวกโฉบไป มามีเยอะ พ่อค้าพวกนี้ ทิ้งสวนง่ายๆ ไม่เหมือนพ่อค้าประจำ กำไร ขาดทุนก็ต้องตัด
.
.
ตรงนี้ละคือ เรื่องหลัก ที่จะปลูกกล้วยแล้ว รอดไม่รอด
รวมกลุ่มได้โทรมาหาลุง จะไปคุยด้วย ถึงบ้านนั่นละ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น