เพราะดินมันยุบ...เมื่อกลบหลุมทีเดียวเต็ม เสมอหน้าดินเลย
.
มันทำให้ดินบริเวณเหง้า มันโพรง..รากที่แทงออกมาใหม่ โดนอากาศเลยแห้งตายไป
.
มันก็แก้ด้วยการ กลบหลุมแค่ มิดเหง้าพอ คือ
ขุดหลุม ให้ลึก 50-60 ซม .นั่นละ
เอากล้วยลงหลุม แล้วกลบแค่มิดเหง้า พอ จากนั้น เหยียบๆๆๆๆๆ ให้แน่นสุดชีวิต
.
รอดู..ถ้า ต้นกล้วยยังสด ๆ อยู่ได้ ไม่มีอาการเหยี่ยว...หรือ กาบแห้ง..นั่นละ ประสบความสำเร็จ
.แต่ถ้า กาบกล้วยหรือลำต้นมันแห้งลง เหมือนต้นเน่า ตรวจดินที่เหง้าอีกที ..โพรง
.
ฉนั้นหลังปลูกกล้วย..ต้องหมั่นเหยียบ โคนต้นทุก 3 วัน จนมั่นใจว่า ดินไม่โพรงแน่ๆ
.
พอกล้วยติดดี ก็เริ่มเพิ่มดินลงหลุม ทีละหน่อย ไม่ต้องกลบทีเดียวเต็มหรอก ทะยอย กลบไป
.
เท่านี้การปลูกกล้วย ก็จะไม่ตาย อีกต่อไป
.
.
มันทำให้ดินบริเวณเหง้า มันโพรง..รากที่แทงออกมาใหม่ โดนอากาศเลยแห้งตายไป
.
มันก็แก้ด้วยการ กลบหลุมแค่ มิดเหง้าพอ คือ
ขุดหลุม ให้ลึก 50-60 ซม .นั่นละ
เอากล้วยลงหลุม แล้วกลบแค่มิดเหง้า พอ จากนั้น เหยียบๆๆๆๆๆ ให้แน่นสุดชีวิต
.
รอดู..ถ้า ต้นกล้วยยังสด ๆ อยู่ได้ ไม่มีอาการเหยี่ยว...หรือ กาบแห้ง..นั่นละ ประสบความสำเร็จ
.แต่ถ้า กาบกล้วยหรือลำต้นมันแห้งลง เหมือนต้นเน่า ตรวจดินที่เหง้าอีกที ..โพรง
.
ฉนั้นหลังปลูกกล้วย..ต้องหมั่นเหยียบ โคนต้นทุก 3 วัน จนมั่นใจว่า ดินไม่โพรงแน่ๆ
.
พอกล้วยติดดี ก็เริ่มเพิ่มดินลงหลุม ทีละหน่อย ไม่ต้องกลบทีเดียวเต็มหรอก ทะยอย กลบไป
.
เท่านี้การปลูกกล้วย ก็จะไม่ตาย อีกต่อไป
.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น