ที่มา
จิรวรรณ โรจนพรทิพย์ เรื่อง / รูป
ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจตกสะเก็ด ปัญหาสินค้าอุปโภค-บริโภคที่ถีบตัวสูงขึ้น แต่รายได้ของประชาชนไม่พอใช้จ่าย ทางรอดที่ดีที่สุดในยุคนี้ก็คือ ต้องขยัน อดทน ประหยัด งดซื้อสิ่งของฟุ่มเฟือย หากใครมีพื้นที่ว่างในบ้าน ก็อยากชวนลงมือปลูกพืชสวนครัวเพื่อประหยัดต้นทุนค่าอาหารกันเสียเลย สำหรับคนรักสุขภาพ ขอแนะนำให้ปลูก “มะระหัวใจ” พืชสวนครัวตัวใหม่ที่ปลูกง่าย อิ่มท้อง อิ่มใจ และได้สุขภาพ ปลูกเป็นพืชสวนครัวรั้วกินได้หรือปลูกในกระถางก็ได้
“มะระหัวใจ” นวัตกรรมเพื่อไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่
เมื่อช่วงต้นปีนี้ บริษัท อีสท์ เวสท์ ซีด (ประเทศไทย) ผู้นำด้านตลาดเมล็ดพันธุ์คุณภาพในอาเซียนที่รู้จักกันดีในชื่อยี่ห้อ “ศรแดง” ได้เปิดตัวมะระลูกผสมชื่อ “มะระหัวใจ (มะระวาเลนไทน์)” เป็นสินค้านวัตกรรมเพื่อชีวิตที่ดียิ่งขึ้น รองรับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ที่มีขนาดครอบครัวเล็กลง ต้องการพืชผักขนาดเล็กที่ใช้ปรุงอาหารกินได้หมดภายในมื้อเดียว และมีคุณค่าทางโภชนาการอย่างครบถ้วน
“มะระหัวใจ” หนึ่งในนวัตกรรมการปรับปรุงสายพันธุ์พืชผักเขตร้อน ของฟาร์มเลิศพันธุ์ ศูนย์วิจัยและพัฒนาของศรแดง ที่ทันสมัยที่สุดในเอเชีย เพื่อส่งมอบเมล็ดพันธุ์คุณภาพที่ดีที่สุด ให้แก่เกษตรกรไทย และเกษตรกรในภูมิภาค “คุณละไม ยะปะนัน” นักปรับปรุงพันธุ์มือหนึ่งของศรแดง ใช้ความวิริยะอุตสาหะ ประมาณ 6 ปี ในการพัฒนาปรับปรุงสายพันธุ์โดยปลอดจากกระบวนการตัดต่อพันธุกรรม (GMOs)
คุณละไม เล่าว่า มะระหัวใจ พัฒนามาจากมะระจีน โดยเก็บรวบรวมพันธุ์และคัดเลือกพันธุ์โดยการผสมพันธุ์ด้วยวิธีธรรมชาติ ด้วยการคัดเลือกพ่อแม่พันธุ์ที่มาผสมกันเพื่อให้ได้มะระลูกผสม มีรูปร่างลักษณะคล้ายรูปหัวใจ เนื้อกรอบและมีรสชาติขมน้อยกว่ามะระทั่วไป สรรพคุณทางด้านโภชนาการยังคงครบถ้วนเหมือนเดิม เหมาะสำหรับผู้บริโภคทุกเพศทุกวัย เนื่องจากมะระหัวใจมีรสชาติไม่ขมมาก และมีคุณค่าทางโภชนาการสูงจึงเหมาะสำหรับเด็กเล็กที่เพิ่งหัดกินผัก
ลักษณะเด่นของ “มะระหัวใจ” อยู่ที่รูปทรงผลที่มีลักษณะคล้ายหัวใจ สวย น่ารัก มีขนาดผล ประมาณ 8-10 เซนติเมตร น้ำหนัก 200 กรัม สีเขียวสด รสชาติขมปานกลาง รวมทั้งตอบสนองต่อการดำรงชีวิตของคนไทยยุคใหม่ที่มีครอบครัวขนาดเล็ก ที่ต้องการบริโภคผักที่มีขนาดพอเหมาะสำหรับปรุงอาหารต่อมื้อ นอกจากนี้ มะระหัวใจยังมีทรงพอเหมาะกับกระป๋อง เพื่อการแปรรูป ผลผลิตต่อต้นสูง ประมาณ 10 กิโลกรัม ดูแลง่าย ขั้วผลยาว ระยะเวลาเก็บเกี่ยวที่เหมาะสมอยู่ที่ 45 วัน สามารถปลูกได้ตลอดทั้งปี
มะระหัวใจ ปลูก ดูแลง่าย
คุณละไม กล่าวว่า การปลูกมะระหัวใจเป็นเรื่องง่ายสำหรับคนรุ่นใหม่ที่พักอาศัยอยู่ในเมืองที่มีพื้นที่จำกัด แค่มีกระถาง 1 ใบ พร้อมวัสดุปลูก เมล็ดพันธุ์มะระวาเลนไทน์ 1 ซอง วิธีการปลูกก็เริ่มจากหยอดเมล็ดในกระถาง (2 เมล็ด ต่อ 1 กระถาง) หลังจากนั้น 14 วัน ต้นกล้าจึงโตเต็มที่ รดน้ำทุกวัน วันละ 1 ครั้ง หลังจากปลูกไปได้ 15-20 วัน ให้ใส่ปุ๋ยเคมี สูตร 15-15-15 ในอัตรา 10 เม็ด ต่อต้น หาไม้ไผ่ขนาดย่อมๆ มาปักเพื่อให้ต้นมะระเลื้อย เมื่อต้นมะระเริ่มออกดอก ให้ใส่ปุ๋ยเคมี สูตร 13-13-13 ในอัตรา 10 เม็ด ต่อต้น ทุกๆ 10 วัน เพื่อกระตุ้นการเติบโตของผลมะระ หลังจากปลูกใช้เวลาดูแล ประมาณ 45-50 วัน ก็สามารถเก็บผลผลิตได้แล้ว
สำหรับคนในชุมชนเมืองที่มีที่ว่างข้างบ้านเพียงเล็กน้อย ก็สามารถปลูกมะระหัวใจในลักษณะพืชสวนครัวรั้วกินได้หรือข้างบ้าน โดยวางตาข่ายให้ต้นมะระหัวใจเลื้อย เมื่อต้นมะระผลิดอกออกผล ก็จะได้ทั้งความสวยงามที่กินได้ แถมมีสุขภาพดีอีกต่างหาก การปลูกผักกินเอง นอกจากจะได้ประโยชน์จากการกินผักปลอดสารพิษแล้ว ยังได้ความสุขทางใจอีกด้วยที่จะเห็นผักที่ตัวเองปลูกค่อยๆ เจริญเติบโตงอกงามจนสามารถนำไปบริโภคได้
สำหรับผู้สนใจทำแปลงปลูกมะระหัวใจข้างรั้วหรือข้างบ้าน เริ่มจากเพาะเมล็ด ประมาณ 12 วัน ก็ย้ายต้นกล้ามาปลูกในแปลงที่เตรียมไว้ ใช้เวลาปลูกดูแลแค่ 45 วัน ก็สามารถเก็บผลกินได้ โดยจะให้ผลผลิต ต้นละ 10 กิโลกรัม การปลูก 1 รอบ จะมีระยะเวลาเก็บเกี่ยว ประมาณ 45-60 วัน ขึ้นอยู่กับการดูแล
หรือใครที่สนใจ ให้เป็นมะระวาเลนไทน์อย่างแท้จริง ก็อาจจะเริ่มๆ ปลูกสักราวกลางเดือนธันวาคม นี้ เพื่อให้ทันเก็บเกี่ยว ช่วงวาเลนไทน์ปีหน้า ก็จะได้ผักสวยๆ แถมกินได้ มอบให้แก่กันแนวแปลกไม่เหมือนใคร
เนื่องจาก มะระหัวใจ เป็นสายพันธุ์พืชเมืองร้อน เติบโตได้ดี เมื่อปลูกในพื้นที่กลางแจ้ง ได้แสงไม่ต่ำกว่าวันละ 6 ชั่วโมง แต่ช่วงฤดูหนาว อากาศเย็น มะระหัวใจจะมีการเจริญเติบโตช้าลง ดังนั้น หากใครต้องการปลูกมะระหัวใจให้มีผลผลิตในช่วงฤดูหนาว ควรเลื่อนระยะการปลูกให้เร็วขึ้น โดยเริ่มปลูกตั้งแต่เดือนตุลาคม ก็จะเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ในช่วงฤดูหนาว
“เมื่อผลมะระหัวใจโตได้ขนาดก็ควรรีบเก็บทาน อย่าปล่อยให้ผลสุกคาต้น เพราะจะทำให้ต้นโทรมเร็ว ปกติผลมะระหัวใจจะมีน้ำหนักเฉลี่ย ประมาณ 6-8 ผล ต่อกิโลกรัม แค่ปลูกมะระหัวใจ 1 ต้น จะสามารถเก็บผลผลิตได้มาก ประมาณ 70-80 ผล หากช่วงไหนมีผลผลิตมาก ก็สามารถแบ่งปันให้เพื่อนบ้านใกล้เคียงได้ เป็นการเชื่อมสัมพันธไมตรีระหว่างบ้านใกล้เรือนเคียงในสังคมเมืองได้อีกทางหนึ่ง” คุณละไม กล่าว
หวานเป็นลม ขมเป็นยา
เมื่อเทียบกับสายพันธุ์มะระทั่วไป มะระหัวใจมีขนาดเล็กกว่า แต่ยังมีรสขมที่เกิดจากสารโมโมดิซิน (Momodicine) “หวานเป็นลม ขมเป็นยา” ของมะระหัวใจ มีประโยชน์ต่อสุขภาพ ช่วยให้ผิวพรรณสดใส เจริญอาหาร และช่วยระบายท้อง มีแคลเซียมและฟอสฟอรัส ซึ่งทำงานสัมพันธ์กัน ในการบำรุงกระดูกและฟัน บำรุงสมองและกล้ามเนื้อ มีวิตามินซีที่ช่วยให้ผิวพรรณสดใส และมีเบต้าแคโรทีนในปริมาณสูง ช่วยในการสร้างภูมิคุ้มกันโรคและปกป้องเซลล์จากการทำลายของสารก่อมะเร็งอีกด้วย
สำหรับผู้สนใจเมล็ดพันธุ์มะระหัวใจหรือผลิตภัณฑ์อื่นๆของบริษัทอีสท์เวสท์ซีดสามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์www.eastwestseed.com หรือสอบถามข้อมูลทางโทรศัพท์ได้ที่ โทร. (02) 831-7777
ที่มา นิตยสารเทคโนโลยีชาวบ้าน ฉบับ 1 พฤศจิกายน 2558