วันเสาร์ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2558

ลุงจะไม่ยอมขายกล้วยเหมาเด็ดขาด

กล้วยที่มันได้ขนาด บางครั้งถ้าเยอะ ก็จะขายส่งให้กับพ่อค้าคนกลางไป เพราะมันได้ราคา

แต่..พวกกล้วยเหมาๆ นับควบนี่ ลุงจะไม่ขายส่ง

แต่ จะเก็บเอาไว้ขายเอง..มันได้ราคาดีกว่าขายเหมาๆ

ก็ถือว่าเป็นการหาเรื่อง หาของไปขายที่ตลาด ได้พูดคุย ได้รู้จักคนซื้อมากขึ้น

บางครั้ง การทำแบบนี้..ก็จะทำให้เรารู้จัก คนเพิ่มขึค้นทุกวัน

นั่นคือช่องทางการขยาย ตลาดของเราเอง









วันเสาร์ที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2558

เครื่องพ่นปุ๋ยโดยไม่ต้องใช้น้ำมัน

https://www.facebook.com/1082240245119777/videos/1106200522723749/

videos

ลุงคิดแบบนี้..ต้องนำกระแส

วันนี้ถ้า...ลุงปลูกมันสำปะหลัง
ธงที่ลุงตั้งเพื่อที่จะเดินไป....ต้องได้ 20ตัน ต่อไร่ด้วยงบที่ประหยัดที่สุด(นั่นคือเป้าหมาย ที่หวัง)
แล้วลุงจะทำทุกวิถีทาง ไปไห้ถึงจุดหมายนั้น...เพื่อนำหรือสร้างกระแส
เพราะเป็นเป้าหมายที่ยากมากๆ เกินจะเป็นจริง...แล้วถ้ามันทำได้จริง
.
.
ถือว่าลุงจุดกระแสติด....ตรงนี้แหละ คือเงินที่จะเข้ามาตอบแทนความพยายามของเรา
ขายพันธุ์-ปุ๋ย-เทคโนโลยี่ ในการปลูก-วิทยากร ..เงินทั้งนั้น


ถ้าวันนี้ลุงปลูกอ้อย
ธงที่ลุงตั้ง ต้องได้ 40ตันต่อไร่....มันเป็นไปไม่ได้หรอก ลุงรู้ ทุกคนรู้...
แต่...ถ้าเป็นไปได้ละ............................เราจะสร้างกระแส ได้ทันที
สิ่งที่ตามมาคือเงิน...มหาศาล

ถ้าลุงทำนา ต้องได้ไร่ละ 3-4 เกวียน
ถ้าทำได้นี่....ตลุย ตลาดแตกเลยนะ 5555

ลุงทำกล้วย ด้วยความมุ่งมั่น มานานกว่า 3 ปี ที่จะเอา 20กว่าหวีต่อเครือ
มันยังไม่ได้หรอก มันทำไม่ได้............................แต่ถ้าอีกปีกว่าๆ ลุงทำได้ละ

สิ่งที่จะเอ่ยก็คือ...
อะไรที่มันยาก อะไรที่มันเกินจริง พยายามทำมันเถิด..เพื่อก้าวขึ้นเป็นผู้นำกระแส

*********************************************************************

นี่คือสิ่งสำคัญที่สุด ในการเรียนรู้ของลุง ที่ใช้มาตลอดชีวิต
ถ้าเล่นแล้ว มันไปไม่ได้  จงออกจากเกม แล้วมานั่งเป็นคนดู



 เพราะมีแต่คนดูเท่านั้น..ทีมองเห็น ในมุมมองที่กว้างหมดทั้งเกม
ผู้เล่นจะมองแค่สิ่งที่อยู่ตรงหน้าเท่านั้น...........................................

ชาวนา..คุณแพ้แล้ว

ชาวนา..คุณแพ้แล้ว
 
.
.
วันนี้พันธ์ข้าวทางภาคกลาง ตกเป็นทาส ซีพี ทั้งหมด แบบไม่มีทางฟื้นกลับคืน
เหลือข้าวหอมมะลิ ทางอีสาน ที่ยังทำนาแบบดั้งเดิม จึงสามารถเก็บข้าวไว้ปลูกต่อไปได้ แต่ก็เหลือน้อยเต็มที
.
.
อีกไม่นาน ถ้าซีพี สามารถ ทำให้เกิดการปนเปื้อน ทางพันธุกรรม ได้ทั้งหมด รับรองได้ว่า ข้าวหอมมะลิที่ดีที่สุด จะตกเป็นของซีพี อย่างไม่ต้องสงสัย ในเวลาอีกไม่นาน
.
.
ข้าว..ถ้าคุมได้ทั้งหมด ซึ่งวันนี้ก็เกือบจะหมด ครบวงจร
เมล็ดพันธฺ ได้แล้ว
โรงสี......มีแล้ว
ระบบจัดจำหน่าย..มีแล้ว
ปุ๋ย ยา......คุมหมดแล้ว
.
.
อีกไม่นาน ก็สามารถ กำหนดราคา ซื้อ ขายข้าวในประเทศได้ อย่างไม่ต้องสงสัย
ข้าจะซื้อราคานี้ ...(ดูข้าวโพด ดูกากถั่วเหลือง ดูมันสำปะหลัง กดจนโงหัวไม่ขึ้น)
.
.
ราคาข้าวก็จะหนีไม่พ้น วงจรเดียวกับ ข้าวโพด มันสำปะหลัง ตอนนนี้ 1.8บาท/โล
.
.
ถ้าชาวนา วันนี้ ยังไม่ขยับ ปรับตัว เรื่องการแปรรูป จำหน่ายในท้องถิ่น นึกนึงการนำมาใช้ปรธโยชน์ทุกชิ้นส่วน
.
ถ้าไม่ขายเป็นข้าวสาร..แค่เอาข้าวเปลือมาบดขาย ยังได้ราคาดีกว่าเลย .. เพราะออกมาทีมีพร้อม สำหรับเลี้ยงสัตว์ได้ทันที..เติมแร่ธาตุอีกหน่อย เอาใบกระถินแห้ง แผนตากแห้ง มาบดรวม...นี่โลละ 30-40 บาทเลยนะ ค่อยๆคิด ปรับสูตร จนลงตัว รวยไม่รู้เรื่อง
.
.
ยังมีหนทาง ที่ชาวนาจะอยู่ได้...อย่าลืมนะ..มดตัวเล็กๆ ยังรวมกันสู้ยักษ์ได้
มันมีช่องว่าง เสมอ สำหรับคนที่กล้าที่จะคิด...

วันศุกร์ที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2558

การปลูกกล้วยให้รอดตายทุกต้น(แบบละเอียดยิบๆๆๆ)

โม้อีกละ
ถ้าปลูกกันแบบไม่เร่งรีบ แบบนี้ไม่มีตาย
แต่เจ้าของ ต้องลงมือเองนะ
ถ้าจ้างปลูก อาจตายทุกต้น 5555



ขุดหลุมครับ กว้าง ยาว ลูก ศอกเดียว 50ซม. หรือลึก สัก 60-70 ซม ก็ได้
ป่นดิน สับดิน ย่อยดิน ให้ละเอียดที่สุด



เตรียม วัสดุ ที่ต้องให้ กันก่อน

ดินที่ผสม เศษหญ้า ขี้เถ้า แกลบดิบ แกลบสุก ใบใผ่ ใบไม้ ใบหญ้า
คือ หามาได้ สักเข่ง รวมๆกัน...เพื่ออุ้มน้ำ ซับความชื้น และเป็น อาหารให้กล้วย 





ผงเศก เอ๊ยย  ปูนขาว สักกระป๋อง เอาไว้โรย ปรับสภาพดิน เชื้อราต่างๆ
ถ้ามีโดโลไมท์ ก็ใส่ไปด้วย แต่ ต้องเอาปูนขาวเป็นหลัก เป็นเรื่องของเชื้อรา


ปุ๋ยเคมี 15-15-15 และหรือ ยูเรีย สักกกำมือ สองกำมือ 
เอาไว้เป็นอาหารเร่งด่วนสำหรับกล้วยที่จะแตกราก ออกมา




ฟูราดาน 3%  ..ไปซื้อทีไร ได้ชื่ออื่นมาทุกที 555
เอาไว้กันหนอนกอ และแมลงอื่นๆ
หลายคนโลกสวย บอกมันคงอยู่ หลายสิบปี ลุงนี้รีบไปซื้อมาเลย หนเดียวได้ 10 ปี 555
แต่ไหง มีฤิทธิ์ ได้ไม่กี่เดือนหว่า..มั่วฟังเขามามั๊ง

ไดโนฟุแลน สารสัดจากยาสูบซิลุง ปลอดภัย..
เออ มันทำลายระบบหายใจนะ คนใช้จะตายก่อนแมลง
สมมุติสกัดจากยาสูบ ปลูกยาสูบรองก้นหลุมด้วยฟูราดาน 555..

ความจริงกับโลกในฝัน มันต่างกันจริงๆ
โลละ 80 บาท กับ 350บาท มันต่างกันเยอะนิ





สปีดทอนาโด 5555
ขาดไม่ได้เลย เอาไว้ผสมน้ำ รดกล้วยหลังปลูก เร่งรากให้ออกเร็วที่สุด





หน่อกล้วยที่จะปลูก
เออ เข้าใจนะว่า จะปลูกกล้วย ต้องมีหน่อกล้วย
นี่เลย กล้วยน้ำว้ายักษ์ กำลังดังเลย 555




ม่ะ..ลงมือปลูกกัน
ขุดหลุมได้ขนาดแล้ว เอาปูนขาวโรยๆ ก้นหลุม
เอาฟูราดาน โดย เอาปุ๋ยเม็ดโรยๆ อย่าหมดนะ 




เทดินในเข่งที่เตรียมไว้ขอบๆหลุม ไม่ต้องเทลงหลุมเด้อ
เอาปูนขาว ฟูราดาน ปุ๋ยเม็ด โรย บนกองดิน

คลุกเคล้า เล้าโลม ให้ทั่ว ทั้งดินในเข่งที่เท
 และดิน จากหลุมที่ขุดขุ้นมา




เมื่อคลุกดินเข้ากันดีแล้ว โกยใส่หลุมที่ขุดให้เต็ม
นั่นคือที่บอกให้ขุดลึกสัก 60-70 ซม.

เมื่อเราเอาดินที่ผสมดีแล้ว ใส่เข้าไป แล้วก็ขุดขึ้นมา ลึกสัก 50 ซม.
ที่นี้ได้ขนาด พอดีปลูกละ 

อาหารที่เราเตรียมไว้ จะอยู่ ด้านล้างหนาถึง 20 ซม
จะทำให้กล้วยโตเร็ว ทีเดียวเชียวละ



ที่นี้ ได้เวลา เอาเสาลงหลุม

ตัด ยอดกล้วยทิ้งไปซะ ตัดเฉียงๆ เอาสูงสัก 50-60-70 ซม.พอ
(แล้วแต่ขนาดหน่อกล้วย)

ตัดรากเก่าทิ้งเสียก็ได้ กะมัง



เอาต้นกล้วย ใส่หลุม เอาดินใส่สัก 10 ซม.แล้ว ลงไป ย่ำๆๆๆๆๆๆ อันนี้ชั้นที่1




ต่อมาครับ เอาดินใส่ไป ย่ำไป จนเกือบเต็มหลุม 
ย่ำให้แน่นที่สุด
แต่อย่าเอา สามเกลอ มากระทุ้ง นะครับ 

ให้เหลือเป็นท้องกะทะ ไว้หน่อย




แมวมาดู บอก ผ่าน ฉลุย



เราเว้นเป็นแอ่งท้องกะทะไว้ พอชั้นบนสุด
 เราก็แค่เกลี่ยดินมาใส่ ให้เสมอพื้น หรือพูนไว้นิดกน่อยพอครับ
ชั้นนี้ไม่ต้องย่ำ ไม่ต้องกด

(ปลูกหน้าแล้ง ทำแอ่ง ปลูกหน้าฝน พูนดินสูงเข้าไว้)

ที่เหลือคือ เอาน้ำ ผสม สปีดทอร์นาโด แล้วรดให้ชุ่มทันที
ไม่กี่วัน ก็ ออกเครือ แล้วครับ 55555

จัดไป 2 ต้น วันนี้กับกล้วยน้ำว้ายักษ์ กำลังดัง






มันคงเหมาะกับ การลงมือทำเองทุกอย่าง ๆลุงนิ

ถ้าจ้างเขา อย่างเดียว คงไม่ได้แบบนี้

ก็เป็นแนวทางไปประยุกค์ ทำกัน

แต่..ถ้าทำแบบนี้ ไม่มีตายเลยครับ 
เพราะดินมันแน่น จริง ตั้งแต่ชั้นแรกมาตลอด



ที่กล้วยมันตาย ก็เพราะดินมันไม่แน่น มันโพรงใน เท่านั้นละครับ

รวยกันทุกคนเด้ออออ พี่น้อง




วันพฤหัสบดีที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2558

กล้วยซุปเปอร์ยักษ์(ตอนนี้ขาดน้ำอย่างหนัก)

ความคิดเห็นต่อไปนี้ ของลุงเท่านั้น ไม่มีวิชาการ
-------------------------------------------------------
ตอนนี้ ถ้าจะเปรียบเทียบพันธ์กล้วย

กลุ่ม .ปากช่อง กาบขาว ท่ายาง สุพรรณ(มันอันเดียวกันนั่นละ
กลุ่มนี้ มันลำต้นปานกลาง ถ้าจะแบกน้ำหนัก ระดับ 35-50โล ถือว่า ลำบากมาก
ถ้าเป็นไปได้จริง ต้องค้ำทุกต้น ไม่งั้น หัก
แต่ความจริง มันไม่ได้ออกหวีเยอะ ขนาดนั้นหรอก เมื่ออยู่ในแปลงจริงๆ
นั่นละ คือความแตกต่าง ระหว่าง อินเตอร์เน็ต กับโลกแห่งความจริง

กล้วยน้ำว้ายักษ์(ที่ไทยรัฐลง...มันมีมานานแล้ว กระจายอยู่ทั่วๆไป )
ข้อจำกัดที่สื่อไม่ได้บอก คือ สีผิวกล้วย ที่ค่อนข้างืเขียว-เทา มันไม่สวย
ลองคิดดูว่า มันมีมานาน ทำไม ไม่ได้รับความนิยม นิ 555
ถ้าขาดน้ำนี่ ไปไม่เป็นเหมือนกัน อาจจะ ภึงขายไม่ออก ถ้ามีกล้วยอื่นประกบข้างอยู่

ปล..กล้วยซุปเปอร์ยัก ลุงดีสุด จริงๆ 555555
มันไซด์ฝรั่ง ยกน้ำหนักเก่ง ไม่ต้องค้ำ ซำบาย




กล้วยน้ำว้ายักษ์




ซุ่มทำมานาน ยังไม่โตเท่าไร
พอจะออกหน่อ เตาะแตะ
แต่ตอนนี้ น้ำไม่มีรด จะได้ยักแดระ ซะก็ไม่รู้นิ

วันศุกร์ที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

ความจริงที่เจ็บปวด


ลุงจะไปขายกล้วยทุกวันโกน วันพระ ที่ตลาด

ในสวนลุงก็จะมีกล้วยน้ำว้า อยู่หลายสายพันธ์

แต่ที่ต้องเหลือกลับมาทุกครั้ง คือ ปากช่อง 50

ลูกค้าจะไม่ค่อยหยิบเอาไป..มันเป็นเรื่องจริง

(หมายถึง มันจะปนๆกันหลายพันธ์ มันทำให้ปากช่องดูด้อย ดูเล็ก ลูกค้าจะหยิบพันธ์ หรือหวี ที่ใหญ่กว่า ถึงแม้ราคาขายจะแพงกว่าตามขนาด ที่ใหญ่ขึ้น )

แต่ถ้า เอาปากช่องไปขายล้วนๆ จะขายได้ เพราะไม่มี ขนาดอื่นๆมาเทียบ
แต่ราคาก็ 15-20 บาท เพราะหวีมัน บ้านๆทั่วไป

สุดท้ายบางทีขายไม่ออก ลุงก็เอามาทำกล้วยตาก กล้วยฉาบ

หรือไม่มีเวลา ก็ทำปุ๋ยไปเลย



กล้วยน้ำว้า ทองเศรษฐี อัพเดทผลงานกันอีกที(วันนี้ที่รอคอย)


รอกันอีกสักปี  คงได้พอมีแบ่งปันกันบ้างนิ  ทุกอย่างต้องใช้เวลา
ในขั้นตอนการทำงาน


ก็ยังไม่รู้ว่า ลูกๆ ของเขา จะออกมาดีเหมือนแม่ไหม ก็พยายามขยายหน่อ ออกไป ทีละน้อย
เพราะต้นพันธ์ มีน้อยมาก ทำได้ทีละหน่อยเอง



เครือ ยังยาว ยังไปได้อีกเยอะ



ความยาวงวง นี่น่าจะไป 2 เมตร




ต้นนี้ ตั้งท่า ออกเครือ มาสวยเช่นกัน


วันพุธที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

อึ้ง...เครือนี้ มันจะยาว ลากดินไหมนี่


ต้นแม่ ยังไม่ขนาดนี้

พอมาถึงรุ่นลูก  ที่ลุงจะลงมือทำ เพื่อขยายพันธ์(รุ่นที่4แล้ว)

ยิ่งเห็นความแตกต่าง มากขึ้นทุกที

ถ้าออกมาได้ดังที่หวังนะ 

อีกไปเดียว ลุงจะรับเงินล้าน แน่ๆ 55555










ความหวังที่ไกล้เป็นจริง เครือละ 500 บาท



แบบนี้ละ ที่ลุงพยายาม พัฒนา พันธ์
อยากให้มันได้แบบนี้ทั้งสวน

ทุกหวี 19-20 ลูก

เครือนึง 10-12 หวี ก็พอใจ ขอให้ได้สม่ำเสมอ ทั้งสวน
 เพราะมันขายได้ เครือละ เกือบ 500 บาท(ขายเอง)

แต่อันนี้ มันอยู่ขอบสระ นึกว่าหมดฝนแล้ว ขะล่าใจ ไม่ค้ำ

เมื่อวานฝนตกหนัก  5555

ลงน้ำกันไปเลย 500 บาทหายวับไปกับตา





การควบคุมการระบาดของหนอนกอ ในสวนกล้วย

สวนกล้วย ทุกสวน พอนานๆไป ก็คงจะหนีปัญหาเรื่องหนอนกอ ไม่พ้น

การแก้ปัญหา ก็แตกต่างกันไป ตามความคิด ของเจ้าของสวน

ที่สวนลุง ก็จะใช้วิธี นี้

คือ เวลาตัดเครือกล้วยไปขาย

ก็จะตัดต้น ให้ พอสั้นๆ หน่อย แล้วเอาฟูราดาน ประมาณ ช้อนโต๊ะ

ใส่ลงไป ที่ต้นกล้ยว ที่ตัดไป แบบ ในรูปนั่นละ 
ก็ถือว่า ควบคุม ได้ในระดับนึง




วันอังคารที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

ทำเกษตร มันไม่มีสูตรสำเร็จที่ตายตัว

ก่อนที่กระโดดเข้ามา
การหาข้อมูลจากการลงพื้นที่จริง ในสิ่งที่เราสนใจ หรือคิดจะลงมือทำ
อินเตอร์เน็ต มันสวยหรู ทำให้เราฝันถึงเงินก้อนโต ที่จะได้

ข้อมูลจะเป็นด้านดี ด้านเดียว เคยเห็นรายการ ทีวี ไปถ่ายคนที่ทำแล้วเจ๊ง มาออกรายการไหม

สิ่งที่ต้องระวัง ก็คือ  พืช ที่ถูกปั่นกระแส ขึ้นมา นั่นละ อันตราย สุดๆ สำหรับ เหษตร ออนไลน์

พอกระแสมันวูบ เพราะแห่ทำ ผลผลิต ออกมา ราคาตก ทั้งประเทศ ..จะขายใครละทีนี้
ก็จะ ขาดทุน ทั่วประเทศ..นี่ละ ธรรมชาติของเกษตรกรไทย


....สนใจสิ่งไหน ต้องลงพื้นที่ จริง ไปขลุกอยู่กับเขาเลย สักอาทิตย์หรือเดือน
....ต้องให้ตังเขานะ เชื่อเหอะ ได้อยู่แน่ๆ แค่ไม่เรื่องมาก กินง่าน นอนง่าย อย่าเยอะๆๆ


หาให้เจอ เราต้องการทำอะไร  อะไรคือต้นทุน  มีการบริหารจัดการ

ต้นทุนของคุณอย่างไร


ต้นทุนในการทำเกษตร

ค่าปุ๋ย -ยาฆ่าแมลง -ยาฆ่าหญ้า
ค่าเมล็ดพันธุ์ - กิ่งพันธุ์ 
ค่าแรงงาน
ค่าเครื่องมือ  ทำเกษตร(ไม่รู้มันจะแพงอะไรนักหนา) 

ต้องมาดูว่า ตรงไหนเราทำเองได้ เครื่องมือ อันไหน ยังไม่จำเป็นที่สุด ชลอไว้ก่อน


 เป็นเกษตรต้องขยายพันธุ์พืชให้เป็น เข้าใจ ทำความคุ้นเคยวงจรชีวิตของพืช

 อย่าตกเป็นทาสโฆษณา  อันนี้สำคัญ จำเรื่อง ปุ๋ย นาโน ไว้เป็นบทเรียนให้มากที่สุด

จำไว่ว่า
1.ทำจากน้อย ไปเยอะ ความชำนาญเกิดจาก การลงมือ ทำเองเท่านั้น
2.ต้องทำปุ๋ยเอง ให้มากที่สุด ถึงที่สุด
3.ใช้แรงงานเราเป็นหลัก
4.สำคัญที่สุด....ต้องขายเองเป็น 
5.อย่าทำพืชขนิดเดียว แต่ทำในส่วนที่มันไป ด้วยกันได้
6.ใจเย็นๆ อย่าเอาเงินสด เข้าไปทุ่มเท ต้องเก็บเอาไว้กิน


สุดท้าย ลองๆ ทำสัก ไม่เกิน 5 ไร่ ก็พอกินแล้ว

โชคดีครับ ทุกท่าน











  

วันจันทร์ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

เตรียมปลูก มะระหัวใจ


ที่มา


จิรวรรณ โรจนพรทิพย์  เรื่อง / รูป

ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจตกสะเก็ด ปัญหาสินค้าอุปโภค-บริโภคที่ถีบตัวสูงขึ้น แต่รายได้ของประชาชนไม่พอใช้จ่าย ทางรอดที่ดีที่สุดในยุคนี้ก็คือ ต้องขยัน อดทน ประหยัด งดซื้อสิ่งของฟุ่มเฟือย หากใครมีพื้นที่ว่างในบ้าน ก็อยากชวนลงมือปลูกพืชสวนครัวเพื่อประหยัดต้นทุนค่าอาหารกันเสียเลย สำหรับคนรักสุขภาพ ขอแนะนำให้ปลูก “มะระหัวใจ” พืชสวนครัวตัวใหม่ที่ปลูกง่าย อิ่มท้อง อิ่มใจ และได้สุขภาพ ปลูกเป็นพืชสวนครัวรั้วกินได้หรือปลูกในกระถางก็ได้  
“มะระหัวใจ” นวัตกรรมเพื่อไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่


เมื่อช่วงต้นปีนี้ บริษัท อีสท์ เวสท์ ซีด (ประเทศไทย) ผู้นำด้านตลาดเมล็ดพันธุ์คุณภาพในอาเซียนที่รู้จักกันดีในชื่อยี่ห้อ “ศรแดง” ได้เปิดตัวมะระลูกผสมชื่อ “มะระหัวใจ (มะระวาเลนไทน์)” เป็นสินค้านวัตกรรมเพื่อชีวิตที่ดียิ่งขึ้น รองรับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ที่มีขนาดครอบครัวเล็กลง ต้องการพืชผักขนาดเล็กที่ใช้ปรุงอาหารกินได้หมดภายในมื้อเดียว และมีคุณค่าทางโภชนาการอย่างครบถ้วน

“มะระหัวใจ” หนึ่งในนวัตกรรมการปรับปรุงสายพันธุ์พืชผักเขตร้อน ของฟาร์มเลิศพันธุ์ ศูนย์วิจัยและพัฒนาของศรแดง ที่ทันสมัยที่สุดในเอเชีย เพื่อส่งมอบเมล็ดพันธุ์คุณภาพที่ดีที่สุด ให้แก่เกษตรกรไทย และเกษตรกรในภูมิภาค “คุณละไม ยะปะนัน” นักปรับปรุงพันธุ์มือหนึ่งของศรแดง ใช้ความวิริยะอุตสาหะ ประมาณ 6 ปี ในการพัฒนาปรับปรุงสายพันธุ์โดยปลอดจากกระบวนการตัดต่อพันธุกรรม (GMOs)

คุณละไม เล่าว่า มะระหัวใจ พัฒนามาจากมะระจีน โดยเก็บรวบรวมพันธุ์และคัดเลือกพันธุ์โดยการผสมพันธุ์ด้วยวิธีธรรมชาติ ด้วยการคัดเลือกพ่อแม่พันธุ์ที่มาผสมกันเพื่อให้ได้มะระลูกผสม มีรูปร่างลักษณะคล้ายรูปหัวใจ เนื้อกรอบและมีรสชาติขมน้อยกว่ามะระทั่วไป สรรพคุณทางด้านโภชนาการยังคงครบถ้วนเหมือนเดิม เหมาะสำหรับผู้บริโภคทุกเพศทุกวัย เนื่องจากมะระหัวใจมีรสชาติไม่ขมมาก และมีคุณค่าทางโภชนาการสูงจึงเหมาะสำหรับเด็กเล็กที่เพิ่งหัดกินผัก

ลักษณะเด่นของ “มะระหัวใจ” อยู่ที่รูปทรงผลที่มีลักษณะคล้ายหัวใจ สวย น่ารัก มีขนาดผล ประมาณ 8-10 เซนติเมตร น้ำหนัก 200 กรัม สีเขียวสด รสชาติขมปานกลาง รวมทั้งตอบสนองต่อการดำรงชีวิตของคนไทยยุคใหม่ที่มีครอบครัวขนาดเล็ก ที่ต้องการบริโภคผักที่มีขนาดพอเหมาะสำหรับปรุงอาหารต่อมื้อ นอกจากนี้ มะระหัวใจยังมีทรงพอเหมาะกับกระป๋อง เพื่อการแปรรูป ผลผลิตต่อต้นสูง ประมาณ 10 กิโลกรัม ดูแลง่าย ขั้วผลยาว ระยะเวลาเก็บเกี่ยวที่เหมาะสมอยู่ที่ 45 วัน สามารถปลูกได้ตลอดทั้งปี 


มะระหัวใจ ปลูก ดูแลง่าย

คุณละไม กล่าวว่า การปลูกมะระหัวใจเป็นเรื่องง่ายสำหรับคนรุ่นใหม่ที่พักอาศัยอยู่ในเมืองที่มีพื้นที่จำกัด แค่มีกระถาง 1 ใบ พร้อมวัสดุปลูก เมล็ดพันธุ์มะระวาเลนไทน์ 1 ซอง วิธีการปลูกก็เริ่มจากหยอดเมล็ดในกระถาง (2 เมล็ด ต่อ 1 กระถาง) หลังจากนั้น 14 วัน ต้นกล้าจึงโตเต็มที่ รดน้ำทุกวัน วันละ 1 ครั้ง หลังจากปลูกไปได้ 15-20 วัน ให้ใส่ปุ๋ยเคมี สูตร 15-15-15 ในอัตรา 10 เม็ด ต่อต้น หาไม้ไผ่ขนาดย่อมๆ มาปักเพื่อให้ต้นมะระเลื้อย เมื่อต้นมะระเริ่มออกดอก ให้ใส่ปุ๋ยเคมี สูตร 13-13-13 ในอัตรา 10 เม็ด ต่อต้น ทุกๆ 10 วัน เพื่อกระตุ้นการเติบโตของผลมะระ หลังจากปลูกใช้เวลาดูแล ประมาณ 45-50 วัน ก็สามารถเก็บผลผลิตได้แล้ว

สำหรับคนในชุมชนเมืองที่มีที่ว่างข้างบ้านเพียงเล็กน้อย ก็สามารถปลูกมะระหัวใจในลักษณะพืชสวนครัวรั้วกินได้หรือข้างบ้าน โดยวางตาข่ายให้ต้นมะระหัวใจเลื้อย เมื่อต้นมะระผลิดอกออกผล ก็จะได้ทั้งความสวยงามที่กินได้ แถมมีสุขภาพดีอีกต่างหาก การปลูกผักกินเอง นอกจากจะได้ประโยชน์จากการกินผักปลอดสารพิษแล้ว ยังได้ความสุขทางใจอีกด้วยที่จะเห็นผักที่ตัวเองปลูกค่อยๆ เจริญเติบโตงอกงามจนสามารถนำไปบริโภคได้ 

สำหรับผู้สนใจทำแปลงปลูกมะระหัวใจข้างรั้วหรือข้างบ้าน เริ่มจากเพาะเมล็ด ประมาณ 12 วัน ก็ย้ายต้นกล้ามาปลูกในแปลงที่เตรียมไว้ ใช้เวลาปลูกดูแลแค่ 45 วัน ก็สามารถเก็บผลกินได้ โดยจะให้ผลผลิต ต้นละ 10 กิโลกรัม การปลูก 1 รอบ จะมีระยะเวลาเก็บเกี่ยว ประมาณ 45-60 วัน ขึ้นอยู่กับการดูแล

หรือใครที่สนใจ ให้เป็นมะระวาเลนไทน์อย่างแท้จริง  ก็อาจจะเริ่มๆ ปลูกสักราวกลางเดือนธันวาคม นี้ เพื่อให้ทันเก็บเกี่ยว ช่วงวาเลนไทน์ปีหน้า ก็จะได้ผักสวยๆ แถมกินได้  มอบให้แก่กันแนวแปลกไม่เหมือนใคร

เนื่องจาก มะระหัวใจ เป็นสายพันธุ์พืชเมืองร้อน เติบโตได้ดี เมื่อปลูกในพื้นที่กลางแจ้ง ได้แสงไม่ต่ำกว่าวันละ 6 ชั่วโมง แต่ช่วงฤดูหนาว อากาศเย็น มะระหัวใจจะมีการเจริญเติบโตช้าลง ดังนั้น หากใครต้องการปลูกมะระหัวใจให้มีผลผลิตในช่วงฤดูหนาว ควรเลื่อนระยะการปลูกให้เร็วขึ้น โดยเริ่มปลูกตั้งแต่เดือนตุลาคม ก็จะเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ในช่วงฤดูหนาว
“เมื่อผลมะระหัวใจโตได้ขนาดก็ควรรีบเก็บทาน อย่าปล่อยให้ผลสุกคาต้น เพราะจะทำให้ต้นโทรมเร็ว ปกติผลมะระหัวใจจะมีน้ำหนักเฉลี่ย ประมาณ 6-8 ผล ต่อกิโลกรัม แค่ปลูกมะระหัวใจ 1 ต้น จะสามารถเก็บผลผลิตได้มาก ประมาณ 70-80 ผล หากช่วงไหนมีผลผลิตมาก ก็สามารถแบ่งปันให้เพื่อนบ้านใกล้เคียงได้ เป็นการเชื่อมสัมพันธไมตรีระหว่างบ้านใกล้เรือนเคียงในสังคมเมืองได้อีกทางหนึ่ง” คุณละไม กล่าว


หวานเป็นลม ขมเป็นยา 

เมื่อเทียบกับสายพันธุ์มะระทั่วไป มะระหัวใจมีขนาดเล็กกว่า แต่ยังมีรสขมที่เกิดจากสารโมโมดิซิน (Momodicine) “หวานเป็นลม ขมเป็นยา” ของมะระหัวใจ มีประโยชน์ต่อสุขภาพ ช่วยให้ผิวพรรณสดใส เจริญอาหาร และช่วยระบายท้อง มีแคลเซียมและฟอสฟอรัส ซึ่งทำงานสัมพันธ์กัน ในการบำรุงกระดูกและฟัน บำรุงสมองและกล้ามเนื้อ มีวิตามินซีที่ช่วยให้ผิวพรรณสดใส และมีเบต้าแคโรทีนในปริมาณสูง ช่วยในการสร้างภูมิคุ้มกันโรคและปกป้องเซลล์จากการทำลายของสารก่อมะเร็งอีกด้วย

สำหรับผู้สนใจเมล็ดพันธุ์มะระหัวใจหรือผลิตภัณฑ์อื่นๆของบริษัทอีสท์เวสท์ซีดสามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์www.eastwestseed.com หรือสอบถามข้อมูลทางโทรศัพท์ได้ที่  โทร. (02) 831-7777   



ที่มา นิตยสารเทคโนโลยีชาวบ้าน ฉบับ 1 พฤศจิกายน 2558

วันอาทิตย์ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

พอจะแบ่ง ได้แค่ 3ถัง สปีดทอร์นาโด



ที่เงียบๆไป ขายจนของไม่มี

ทั้งมารับกันเอง ทั้งส่ง

ตอนนี้พอจะแบ่ง ได้แค่  3ถัง
เผื่อมีคนต้องการ จะใช้

ถ้งละ 20 ลิตรครับ 2000 บาท
10 ลิตรครับ  1000 บาท

ค่าส่งตามโซน จังหวัดครับ

วันพุธที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

กล้วยเครือนี้ได้แน่ๆ 480 บาทขั้นต่ำ

ลุงคำนวน จากที่เคยขายนะ
หวีละ 19-20 ลูก-เคยขายหวีละ 40-45 บาท
ลุงขายเองที่ตลาด

ตอนนี้มันออกมาแล้ว เกิน 12 หวี

ทีนี้ ต้องรอดูว่า มันจะ ใหญ่ ได้ขนาดไหน ยิ่งใหญ่ ราคายิ่งดี




นี่อีกต้น เริ่ม ออกปลี



นี่อีกต้นนึง รอลุ้น อย่าง ตื่นเต้น


นี่ละ ลุงถึงว่า บางครั้ง เราพยายาม ทำพันธ์ ให้มันดี มันจะออก ดกมาก
ตอนนี้ต้นพันธ์ ที่จะผลิตหน่อ น่าจะมีสัก 50-80 ต้น โดยประมาณ

คาดว่า จะนำมาขยายให้เต็มสวน ได้ ในเวลา 1 ปี 

(ทองเศรษฐี)

เห็ดกระถินพิมานรักษามะเร็ง

พ่นควันไล่ผึ้ง

รักษาเก๊าท์

โกฏจุฬาลัมพาแห้ง